บล.เอเชียพลัสคาด SETเสี่ยงปรับลงจากการเมืองร้อน จับตาคำวินิจฉัยของศาลฯ

ข่าวหุ้น-การเงิน Sunday November 17, 2013 09:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บล.เอเชียพลัส ปรับลดประมาณการกำไรตลาดอีกครั้งลดลง 5% จากฐานเดิม และคาดว่าตลาดหุ้นไทย (SET)ในสัปดาห์นี้ (วันที่ 18-22 พ.ย.2556) ยังอยู่ภายใต้แรงกดดันจากปัจจัยการเมือง ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 3/56 ยังออกมาต่ำกว่าคาด นำไปสู่การปรับลดประมาณการกำไรลง ทำให้ค่า Current PER ดีดกลับไปอยู่สูงกว่า 15 เท่า ลงทุนด้วยความระมัดระวัง

สถานการณ์ทางการเมืองในสัปดาห์นี้ นอกจากความร้อนแรงในประเด็นเดิมที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์การชุมนุมที่ถูกยกระดับให้เข้มข้นขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการเปิดประเด็นเรื่องคัดค้านการแก้ไข รัฐธรรมนูญมาตรา 190 ที่ได้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา อยู่ในขั้นตอนของการเตรียมนำขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว ในสัปดาห์นี้ยังมีอีกอย่างน้อย 2 ประเด็นที่ต้องติดตาม เริ่มจากวันที่ 20 พ.ย.2556 ศาลรัฐธรรมนูญจะมีการอ่านคำวินิจฉัยในกรณีที่มีผู้ร้องว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าด้วยที่มา ส.ว. ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 68 (ว่าด้วยการล้มล้างการปกครองฯ) ซึ่งหากคำวินิจฉัยออกมาในแนวทางที่เห็นว่าขัดต่อมาตรา 68 ผลที่ตามมาก็ดูค่อนข้างร้ายแรง เนื่องจากจะนำไปสู่การยุบพรรค และตัดสิทธิ์ทางการเมือง ของ ส.ส. และ ส.ว. ที่ลงชื่อสนับสนุน จำนวน 312 — 319 คน ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งใหญ่ได้ แต่หากคำวินิจฉัยของศาลออกมาในแนวทางที่เห็นว่าไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ก็อาจทำให้สถานการณ์ทางการเมืองเริ่มผ่อนคลายลงได้บ้าง

อีกประเด็นหนึ่งที่ต้องติดตามได้แก่ การเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งเป็นไปได้ที่จะต้องเห็นการยื่นญัตติในสัปดาห์นี้ เนื่องจากสมัยประชุมสามัญทั่วไปครั้งนี้จะจบลงในวันที่ 28 พ.ย.56 ทั้งนี้เป้าหมายการอภิปรายคาดว่าจะมุ่งไปที่ตัวนายกรัฐมนตรี

นอกจากนี้ในช่วงต้นสัปดาห์จะมีการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.ให้กระทรวงการคลังกู้เงิน 2 ล้านล้านบาทฯ ในวาระที่ 2 และ 3 ของวุฒิสภา ซึ่งหากผ่านไปได้ก็ต้องติดตามว่าจะมีการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความหรือไม่ หากมีการยื่นก็ต้องรอผลการวินิจฉัยของศาลฯ ออกมาก่อน หากไม่ขัด จึงดำเนินการนำขึ้นทูลเกล้าฯ และประกาศใช้ต่อไป ในช่วงที่มีการพิจารณาของ ส.ว. คาดว่าจะเห็นการเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มรับเหมาฯ ซึ่งหุ้นที่โดดเด่นได้แก่ UNIQ (FV@B 11.15) และ SRICHA (FV@B53.43)

*ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2556 ของตลาดลง 5%

งวด 6เดือนปี 56 บริษัทจดทะเบียนประกาศกำไรสุทธิรวมอยู่ที่ 4.12 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.84% YoY และคิดเป็นสัดส่วน 48.53% ของประมาณการกำไรทั้งปี 2556 ขณะที่ไตรมาส 3/56 ตัวเลขกำไรที่ประกาศออกมาก็ยังต่ำกว่าที่คาด อีกทั้งยังมีการบันทึกรายการพิเศษเข้ามาอีกหลายรายการที่เข้ามาลดทอนกำไร

ทำให้ฝ่ายวิจัยต้องทำการปรับลดประมาณการกำไรของบริษัทจดทะเบียนลงเป็นครั้งที่ 2 ของปี ทั้งนี้รายการปรับปรุงขนาดใหญ่ที่เห็นได้ ณ จุดนี้ประกอบด้วยรายการตั้งสำรองค่าใช้จ่ายพิเศษของ THAI, TTA, JAS มูลค่ารวมกว่า 1.87 หมื่นล้านบาท การเลื่อนกำหนดการขายสินทรัพย์เข้า Property Fund ของ LH 1.3 พันล้านบาท และผลประกอบการที่แท้จริงต่ำกว่าคาดของ CPF, CPALL, ADVANC และ DTAC ซึ่งเมื่อรวมกับการปรับของบริษัทอื่นๆ อีก

คาดจะทำให้กำไรงวดปี 2556 ลงจากฐานเดิมประมาณ 5.18% ทำให้ EPS ของตลาดหุ้นไทยลงมาอยู่ที่ระดับประมาณ 92 — 93 บาท เติบโตประมาณ 8.63% YoY จากประมาณการเดิมที่คาดว่าจะเติบโต 14.7% YoY ทำให้ค่า PER ปัจจุบันกลับขึ้นมาสูงกว่า 15 เท่าอีกครั้ง ส่วนปี 2557 คาดว่ากำไรจะเติ้บโต 14.5% YoY

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นโลกตอบรับในเชิงบวกจากถ้อยแถลงของ นางเจเน็ต เยลเลน ว่าที่ประธานเฟดคนต่อไป ซึ่งยังคงให้ความสำคัญกับมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน(QE) โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ตลาดแรงงานและอัตราเงินเฟ้อเข้าสู่เป้าหมายโดยเร็วที่สุด จึงมีความเป็นไปได้ที่ QE จะยังคงอยู่จนถึงไตรมาสแรกของปี 2557 อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าสังเกตว่าตลาดหุ้นสหรัฐแม้จะค่า Current PER สูงกว่า 16 เท่า แต่คาดการณ์ว่าอาจมีการปรับประมาณการกำไรของตลาดฯขึ้น ทำให้กระแสเงินทุนมีแนวโน้มไหลออกจากประเทศกำลังพัฒนา โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา (11-14 พ.ย. 2556) ต่างชาติยังคงขายสุทธิหุ้นในภูมิภาค ราว 1,443 ล้านเหรียญฯ เช่นเดียวกับในประเทศไทยที่นักลงทุนกลุ่มนี้ยังคงขายสุทธิเช่นกันราว 1.2 หมื่นล้านบาท จากแรงกดดันของปัจจัยการเมืองภายในประเทศ

*ลุ้น SET ยืนเหนือ 1,400 จุด

สัปดาห์ที่ผ่านมา เหมือนจะแย่แต่ก็ไม่แย่ ดัชนีประคองตัวเหนือ 1,410 จุด ปิดตัวไม่ได้แตกต่างจากสัปดาห์ก่อนมากนัก หากดูที่แท่งเทียนรายสัปดาห์จะพบว่าดัชนีทำทรงฟื้นตัวขึ้นมาจาก 1,380 จุดได้น่าสนใจ อย่างไรก็ตามดัชนียังไม่พ้นความเสี่ยงที่จะปรับลงอีกครั้ง เนื่องจาก SET ยังติดอยู่ภายใต้กรอบ Parallel Line in Downtrend ซึ่งสัปดาห์หน้าจะเป็นตัวชี้ว่า SET Index จะอยู่หรือไป

ในสัปดาห์นี้ ต้องลุ้นให้ SET ยืนเหนือ 1,400 จุดให้ได้ ก็จะเป็นสัญญาณการเริ่มฟื้นตัวที่แข็งแกร่ง แต่หากดัชนีปรับลงต่ำกว่า 1,400 จุด ก็อาจลงต่อเนื่องถึง 1,380 จุดหรือลึกกว่านั้น ซึ่งมองว่าไม่น่าต่ำกว่า 1,340 จุด

สรุป ดัชนียังมีความเสี่ยงที่จะปรับลงอีกครั้ง สัปดาห์หน้าจะเป็นตัวชี้ขาด ถ้าวนกลับลงมาต่ำกว่า 1,400 จุด ก็น่าจะลงต่อถึง 1,380 จุด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ