โบรกฯเห็นพ้อง"ซื้อ"CPF ปีนี้ธุรกิจ Turnaround, ตรุษจีนหนุนดีมานต์เพิ่ม

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 22, 2014 10:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกฯเห็นพ้อง"ซื้อ"หุ้น บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร(CPF)มองปี 57 จะ Turnaround อย่างชัดเจน เมื่อเทียบกับปีที่แล้วที่ทุกธุรกิจแย่ โดยขณะนี้ทุกธุรกิจฟื้นตัวทั้งราคาไก่-หมูปรับตัวขึ้น ส่วนธุรกิจกุ้งก็เริ่มฟื้นตัวจาก supply ที่จะออกมามากขึ้น ช่วงสั้นยังได้รับผลดีจากช่วงเทศกาลตรุษจีนด้วย ช่วยเพิ่ม demand อีกทั้ง ยังได้รับประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่าด้วย เนื่องจากรายได้บางส่วนมาจากการส่งออก

พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้ในช่วง 10,100-13,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่คาดว่าจะมีกำไรสุทธิอยู่ในช่วง 5,897-7,900 ล้านบาท โดยปีก่อนกำไรที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มาจากกำไรพิเศษที่ได้จากการเทรดดิ้งหุ้น CPALL และ CP ฮ่องกง ขณะที่ธุรกิจหลักของ CPF ปีที่แล้วไม่ดีแทบทุกตัว โดยเฉพาะธุรกิจกุ้งที่แย่เพราะเจอโรค EMS

          โบรกเกอร์                    คำแนะนำ  ราคาเป้าหมาย(บาท)
          บล.ธนชาต                      ซื้อ          39.00
          บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย)   ซื้อ          38.00
          บล.ไทยพาณิชย์                   ซื้อ          35.00
          บล.เคทีบี(ประเทศไทย)            ซื้อ          33.80
          บล.บัวหลวง                     ซื้อเก็งกำไร   32.70
          บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย)   ซื้อ          32.00

นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้บริหารสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์และกลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี(ประเทศไทย)ให้เหตุผลที่แนะ"ซื้อ"หุ้น CPF ด้วยราคาเป้าหมาย 33.80 บาท เนื่องจากปีนี้จะเป็นปีที่ Turnaround อย่างชัดเจน เมื่อเทียบกับปีที่แล้วที่ทุกธุรกิจค่อนข้างไม่ดี โดยปีนี้ทุกธุรกิจจะมีการฟื้นตัว ทั้งราคาไก่ และราคาหมูก็มีการปรับตัวขึ้น ส่วนธุรกิจกุ้งก็เริ่มฟื้นตัว

นอกจากนี้ ช่วงสั้นยังได้รับผลดีจากช่วงเทศกาลตรุษจีนด้วย แม้จะไม่ได้คาดว่าจะสดใสมาก แต่อย่างน้อยก็ได้ในเรื่อง demand ที่มีเข้ามาเพิ่ม อีกทั้ง CPF ยังได้รับประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่าด้วย เนื่องจากมีบางส่วนที่ส่งออกด้วย

พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปี 57 ไว้ที่ 13,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 7,200 ล้านบาท ซึ่งในปีที่แล้วกำไรที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มาจากกำไรพิเศษที่ได้จากการเทรดดิ้งหุ้น CPALL และยังได้มาจาก CP ฮ่องกง ที่ปีที่แล้วธุรกิจดีกว่าไทย ส่วนธุรกิจหลักของ CPF ปีที่แล้วไม่ดีแทบทุกตัว

ด้านน.ส.นลิน วิริยะเสถียร นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย) กล่าวว่า ปีนี้ธุรกิจของ CPF จะดีกว่าปีที่แล้วทั้งจากธุรกิจกุ้งที่น่าจะมี supply ออกมามากขึ้น โดยปีนี้คาดว่าจะออกมาประมาณ 3 แสนตัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่ผลิตได้ 2.5 แสนตัน แต่ก็ยังไม่ได้เข้าเกณฑ์ปกติที่ต้องผลิตได้ 5 แสนตัน แต่อย่างน้อยก็ดีขึ้น แค่ธุรกิจกุ้งไม่ขาดทุนก็สามารถที่จะพลิกเป็นบวกได้

ส่วนธุรกิจไก่ และหมูปีนี้มาร์จินน่าจะดีขึ้น โดยเฉพาะราคาไก่ปีนี้ถือว่าดี จากการส่งออกไปญี่ปุ่นแม้จะไม่มาก แต่ก็ทำให้ราคาไก่ในประเทศดีขึ้น จาก demand ที่มากขึ้น ส่วนธุรกิจในต่างประเทศปีนี้ก็น่าจะดูดีขึ้น ซึ่งโดยรวมแล้ว CPF ในปีนี้จะเป็นลักษณะของการฟื้นตัว ธุรกิจไม่แย่เหมือนเมื่อปีที่แล้ว

นอกจากนี้ CPF ยังได้รับประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่าด้วย ซึ่งได้มาจากการส่งออก แต่ก็คงไม่มาก และยังได้รายได้จากต่างประเทศ ที่หากนำเงินเข้ามาแล้วมาแปลงเป็นเงินบาทกลับมาก็จะได้เงินก้อนใหญ่ขึ้น

พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้ไว้ที่ 12,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 5,897 ล้านบาท ซึ่งหากมองที่การดำเนินงานของ CPF ในปี 56 คาดว่าจะขาดทุนประมาณ 800 ล้านบาท รับผลกระทบมาจากธุรกิจกุ้งเป็นหลัก

ส่วน น.ส.สุทธาทิพย์ พีรทรัพย์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย)กล่าวว่า ปีนี้ผลประกอบการของ CPF จะฟื้นตัวดีจากปีที่แล้วทุกธุรกิจทั้งธุรกิจกุ้งที่ค่อย ๆ ดีขึ้น จากเริ่มมีผลผลิตออกมามากขึ้น โดยจะเห็นภาพชัดเจนในไตรมาส 2/57 ส่วนธุรกิจไก่และหมูราคาค่อนข้างดีแล้ว และธุรกิจสัตว์บกในต่างประเทศก็มีการฟื้นตัวในหลาย ๆ ประเทศเริ่มกลับมาทำกำไรได้บ้าง

"ในช่วงตรุษจีน ราคาไก่-หมูก็จะดีด้วย ตอนนี้ก็ถือว่าราคาสูง"น.ส.สุทธาทิพย์ กล่าว

นอกจากนี้ CPF ยังได้รับประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่าด้วย แม้จะไม่มากนัก เพราะมีรายได้จากการส่งออก 7-8% ของรายได้รวม ส่วนที่เหลือมาจากธุรกิจในประเทศ และการลงทุนธุรกิจในจีน, ตุรกี เป็นต้น ซึ่งเกือบ 50% เป็นรายได้จากต่างประเทศ ซึ่งธุรกิจในต่างประเทศเป็นธุรกิจที่ลงทุนจริง ๆ จึงไม่ได้เกี่ยวข้องกับอัตราแลกเปลี่ยนมากนัก

พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้ไว้ที่ 10,100 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 7,900 ล้านบาท ซึ่งปีที่แล้ว CPF มีการรับรู้รายการพิเศษค่อนข้างมาก แต่หากมองที่กำไรจากการดำเนินงานตามปกติ ปีที่แล้วคาดว่าจะมีกำไรปกติแค่ 1,000 ล้านบาท ขณะที่ปีนี้คาดว่าจะมีกำไรจากการดำเนินงานตามปกติ 7,600 ล้านบาท จะเห็นได้ว่าปีนี้กำไรของ CPF จะมีการเติบโตค่อนข้างมาก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ