ก.ล.ต.จับมือบลจ.-ตลท.พร้อมสถาบันการเงินเปิด"โครงการสานฝันเริ่มด้วยพันบาท"

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 10, 2014 16:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และสมาคมบริษัทจัดการลงทุน ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย สมาคมธนาคารนานาชาติ สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย และสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย เปิดตัว “โครงการสานฝันเริ่มด้วยพันบาท" สนับสนุนคนวัยทำงานออมและลงทุนอย่างมีวินัยด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเดือนละ 1,000 บาท เพื่อบรรลุเป้าหมายของชีวิต

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนวัยทำงานทั่วประเทศมีวินัยในการออม และลงทุนในกองทุนรวมที่เข้าร่วมโครงการเป็นประจำทุกเดือนและต่อเนื่องด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายของชีวิตในระยะกลางและระยะยาวรองรับวัยเกษียณอายุ ขณะที่ประชาชนในวัยทำงานส่วนใหญ่ยังไม่ให้ความสำคัญกับการออมเงินเพื่อวัยเกษียณ โดยเริ่มออมเมื่อมีอายุมากแล้ว ด้วยจำนวนเงินไม่มาก และออมในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนน้อยกว่าที่ควร ซึ่งเติบโตไม่ทันกับอัตราเงินเฟ้อ

โครงการสานฝันเริ่มด้วยพันบาทมีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เข้าร่วมจำนวน 16 บริษัท และมีกองทุนรวม 46 กอง ซึ่งเป็นกองทุนรวมหุ้น กองทุนรวมตราสารหนี้ กองทุนรวมผสม และกองทุนรวมที่ปรับเปลี่ยนการลงทุนตามอายุ โดยผู้ลงทุนเลือกลงทุนได้ตามความต้องการที่สอดคล้องกับผลตอบแทนและความเสี่ยงที่ยอมรับได้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการลงทุนของตนในระยะกลางถึงระยะยาว ผู้สนใจลงทุนสามารถเปิดบัญชีและซื้อหน่วยลงทุนได้โดยตรงผ่าน บลจ. บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) และสาขาของธนาคารพาณิชย์

นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า การบรรลุเป้าหมายทางการเงินได้จะต้องเกิดจากการลงทุนอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง ซึ่งทุกคนสามารถทำได้หากมีวินัยในตนเอง โดยไม่จำเป็นต้องมีเงินลงทุนมากมาย โครงการนี้เป็นการส่งเสริมการลงทุนอย่างสมัครใจ ช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถเริ่มต้นลงทุนได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นทำงานซึ่งอาจมีรายได้ไม่สูงนัก เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนที่เพียงพอและสามารถตอบสนองความต้องการของชีวิต ซึ่ง ก.ล.ต. พร้อมที่จะสร้างความรู้ความเข้าใจด้วยการจัดทำเอกสารความรู้เพื่อเผยแพร่ผ่าน บล. บลจ. และสาขาธนาคาร ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลที่ประชาชนใช้ตัดสินใจลงทุนมากที่สุด และเชื่อว่าโครงการนี้จะช่วยจุดประกายให้แก่ประชาชนให้เห็นถึงความสำคัญและเริ่มลงทุนอย่างจริงจัง อีกทั้งเป็นจุดเริ่มต้นที่นำไปสู่การเพิ่มระดับการออมการลงทุนของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ

นายสมจินต์ ศรไพศาล นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน กล่าวว่า กองทุนรวมเป็นเครื่องมือเพื่อการลงทุนที่มีนโยบายการลงทุนหลากหลาย สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนที่รับความเสี่ยงได้ต่างกัน สร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะปานกลางและระยะยาว เพื่อช่วยรักษามาตรฐานการดำรงชีวิตในอนาคต บลจ. พร้อมที่จะบริหารเงินลงทุนและสนับสนุนให้ผู้ลงทุนรายย่อยมีความรู้ความเข้าใจเรื่องการลงทุน และเริ่มลงทุนในกองทุนรวมอย่างมีวินัย และสามารถบรรลุเป้าหมายของชีวิตได้ในที่สุด

นางเกศรา มัญชุศรี รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานการตลาด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันประชาชนจำนวนมากสนใจลงทุนในตลาดทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนนอกเหนือจากแหล่งเงินออมที่คุ้นเคย สำหรับผู้ลงทุนมือใหม่ที่สนใจลงทุนแต่ยังไม่พร้อมหรือความเข้าใจที่เพียงพอ กองทุนรวมเป็นทางเลือกที่เหมาะสม เนื่องจากมีมืออาชีพบริหารการลงทุนให้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ให้ความสำคัญต่อการสร้างผู้ลงทุนคุณภาพที่ลงทุนอย่างมีหลักการและมีวินัย จึงได้ให้ความรู้และสนับสนุนการลงทุนในกองทุนรวมผ่านแผนงานและโครงการต่าง ๆ โดยเฉพาะโครงการให้เงินทำงานผ่านกองทุนรวมซึ่งดำเนินการมาเป็นปีที่ 11 และเชื่อว่าโครงการนี้จะเป็นอีกแรงกระตุ้นให้ประชาชนหันมาให้ความสำคัญกับการลงทุนอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอมากขึ้น

นายชาติศิริ โสภณพนิช ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ธนาคารตระหนักถึงบทบาทของการเป็นสถาบันตัวกลางในการส่งเสริมการออมการลงทุนให้แก่ประชาชน เพื่อยกระดับความเป็นอยู่และสร้างความมั่นคงให้กับชีวิตในอนาคต โดยเป็นจุดขายผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ซึ่งรวมถึงการเป็นตัวแทนขายหน่วยลงทุนให้กับ บลจ. อีกทั้งเป็นช่องทางให้ความรู้ความเข้าใจที่สนับสนุนประชาชนส่วนใหญ่ในการตัดสินใจการออมการลงทุน ด้วยสาขากว่า 6,600 แห่งทั่วประเทศ สมาคมฯ พร้อมสนับสนุนให้โครงการนี้บรรลุเป้าหมายในการส่งเสริมให้ประชาชนวัยทำงานมีความรู้ความเข้าใจและลงทุนอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง พร้อมไปกับการพัฒนาคุณภาพบุคลากรของธนาคารและการให้บริการในด้านตลาดทุนอย่างเต็มที่

นางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย กล่าวว่า บริษัทหลักทรัพย์พร้อมสนับสนุนการลงทุนผ่านกองทุนรวมโดยมีจุดแข็งจากการเป็นตัวแทนการขายกองทุนรวมของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนหลายแห่ง ซึ่งบริษัทหลักทรัพย์สามารถเปรียบเทียบผลตอบแทนและให้คำแนะนำในการเลือกหน่วยลงทุนให้เหมาะสมกับผู้ลงทุน พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ลงทุนที่มีเวลาจำกัด แต่ต้องการทางเลือกในการลงทุนที่มีความหลากหลายมากขึ้น ทั้งนี้ การลงทุนอย่างมีวินัยผ่านกองทุนรวมจะช่วยส่งเสริมการขยายตัวของผู้ลงทุนสถาบัน ส่งผลให้เกิดความสมดุลกับผู้ลงทุนรายย่อย และช่วยลดผลกระทบหากเกิดความตื่นตระหนกในตลาดทุน เป็นผลดีต่อการสร้างเสถียรภาพและความเข้มแข็งให้เกิดขึ้นในตลาดทุนไทย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ