CIMBT-บลจ.ซีไอเอ็มบีฯเซ็น MOU กับ Mirae Asset จากเกาหลีออกกองทริกเกอร์

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday March 28, 2014 13:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) กล่าวว่า ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย และบลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) กับ Mirae Asset Global Investments บริษัทบริหารสินทรัพย์ใหญ่อันดับที่ 1 ของประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งนับเป็นความร่วมมือระดับภูมิภาคที่จะเอื้อประโยชน์ทางธุรกิจกับทั้ง 2 ฝ่าย โดยจะครอบคลุมทั้งงานวิจัย คิดค้นและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ทางการเงิน การวางแผนการตลาดร่วมกัน ตลอดจนการมองหาโอกาสทำธุรกิจใหม่ๆ ทั้งในประเทศไทยและประเทศเกาหลีใต้

โดยความร่วมมือในครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่ บลจ.ชั้นนำของเกาหลี อย่าง Mirae Asset Global Investments เข้ามาขยายธุรกิจเข้ามาในประเทศไทย จากความร่วมมือกับธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย

“ความร่วมมือกันครั้งนี้ จะเริ่มด้วยการเปิดตัวกองทุนที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนไทยเข้าไปลงทุนในหุ้นของบริษัทเกาหลีใต้ผ่านกองทุนที่บริหารโดยบริษัทจัดการกองทุนอันดับ 1ของเกาหลีใต้ เชื่อเศรษฐกิจเกาหลีใต้ขณะนี้อยู่ในช่วงขาขึ้น และภาคการส่งออกกำลังจะได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ตลาดหุ้นเกาหลีจึงเป็นตลาดที่มีศักยภาพเติบโตสร้างผลตอบแทนได้ดีในปีนี้" นายสุภัค กล่าว

นาย Kim Mi Seob กรรมการผู้จัดการอาวุโสด้านธุรกิจต่างประเทศ Mirae Asset Global Investments กล่าวว่าทั้งกลุ่ม CIMB และ Mirae Asset ได้ร่วมกันแสดงถึงพลังแห่งการสร้างสรรค์ริเริ่มซึ่งนำพาไปสู่ความร่วมมือครั้งสำคัญจากกลุ่มการเงินสองภูมิภาคในเอเชีย โดยสิ่งที่แสดงให้เห็นจากความร่วมมือกันครั้งนี้ ใม่ใช่เพียงก้าวสำคัญของกลุ่ม CIMB และ Mirae Asset แต่เป็นการพัฒนาความร่วมมือที่ยิ่งใหญ่ของธุรกิจการเงินไทยและเกาหลี ซึ่งตนเองรู้สึกภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือครั้งนี้และเชื่อมั่นว่ากลุ่ม Mirae Asset จะให้การสนับสนุนในทุกๆขั้นตอนเพื่อให้เกิดการพัฒนาและสร้างความสำเร็จให้กับทั้งสองฝ่าย

นอกจากพิธีลงนามใน MOU ครั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล ร่วมกับ Mirae Asset Global Investments เปิดตัวกองทุน CPAM Korea Equity Strategic Fund (CPAM KEQ) ซึ่งเป็นการลงทุนผ่านกองทุนหุ้นที่บริหารจัดการโดยบริษัทจัดการกองทุนเบอร์หนึ่งของเกาหลีใต้ นับเป็นความร่วมมือครั้งแรกของบลจ.ประเทศไทยกับบริษัทจัดการกองทุนสัญชาติเกาหลี กองทุนนี้เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทยักษ์ใหญ่ในประเทศเกาหลีใต้ ที่มีศักยภาพการเติบโตสูง โดยเน้นลงทุนในกองทุนหลัก Mirae Asset Korea Equity Fund ที่บริหารโดยผู้จัดการกองทุนของ Mirae Asset Global Investments ที่ประจำอยู่ที่ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างดี

นับตั้งแต่ก่อตั้งกองทุนเมื่อปี 2008 มาถึงปัจจุบัน (ณ มกราคม 2557) มีผลตอบแทนทั้งสิ้น 60.1% ซึ่งดีกว่าผลตอบแทนเฉลี่ยของตลาดหุ้นเกาหลีใต้ (KOSPI) ที่ 45% โดยกองทุนนี้ มีผลงานดีเด่นระดับ 4 ดาว จากการจัดอันดับของ Morning Star จึงเป็นโอกาสที่ดีของนักลงทุนไทยที่สามารถเข้าไปลงทุนเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากตลาดหุ้นเกาหลี ที่มีศักยภาพในการเติบโตได้อีกมาก ในภาวะที่เศรษฐกิจของประเทศเกาหลีอยู่ในช่วงขาขึ้น สอดรับกับแผนยุทธศาสตร์เป้าหมายเศรษฐกิจเติบโต 4% ภายในปี 2017

ด้านนายจุมพล สายมาลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล จำกัด กล่าวว่า การลงทุนในตลาดหุ้นเกาหลีนับเป็นทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนไทย ทั้งนี้ การเข้าไปลงทุนในตลาดหุ้นเกาหลีในช่วงนี้ ถือเป็นจังหวะที่ดี เนื่องจากประเทศเกาหลีมีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศระดับสูง และมีการบริโภคที่แข็งแกร่ง ซึ่งคาดว่าจะผลักดันให้เศรษฐกิจของเกาหลีเติบโตได้ 4% ภายในปี 2017 ตามเป้าหมายของภาครัฐ

ขณะเดียวกัน มูลค่าของตลาดหุ้นเกาหลีอยู่ในระดับต่ำหรือถูกกว่าตลาดหุ้นอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค โดยสำนักวิจัยของบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำหลายแห่งคาดการณ์ว่าตลาดหุ้นเกาหลีจะสร้างผลตอบแทนในเกณฑ์เฉลี่ยได้ประมาณ 18% (Bloomberg consensus) โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี ภาคการส่งออกขยายตัวตามเศรษฐกิจโลก และรัฐบาลเกาหลีออกนโยบายปรับโครงสร้างเศรษฐกิจสนับสนุนการบริโภคของประชาชน การลงทุนภาคเอกชนและการขยายตัวของเศรษฐกิจโดยรวม

นาย Park Ryan หัวหน้าทีมวิเคราะห์ตราสารทุน ประเทศเกาหลี Mirae Asset Global Investments กล่าวว่า อัตราการบริโภคที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก มีผลสำคัญในการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจโลก โดยประเทศเกาหลีซึ่งมีลักษณะเป็นเมืองท่าและมีความสามารถในการแข่งขันด้านผลิตภัณฑ์และบริการจึงเป็นหนึ่งประเทศที่ได้รับอานิสงส์โดยตรงจากการเติบโตด้านการบริโภคของเอเชีย หลายๆบริษัทสัญชาติเกาหลีได้พัฒนาความสามารถการแข่งขันในระดับโลกและแสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องของรายได้ ทำให้เชื่อว่าการลงทุนในหุ้นบริษัทสัญชาติเกาหลีจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากในปัจจุบัน แม้ว่าประเทศเกาหลีจะถูกจัดอยู่ในประเทศ emerging market แต่ที่ผ่านมาเศรษฐกิจของประเทศได้รับผลกระทบน้อยมากจากปัจจัยภายนอก เนื่องจากความหลากหลายและสมดุลของภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม

*ออกกองทุนทริกเกอร์ลงทุนหุ้นเกาหลี เปิดขาย 1-8 เม.ย.

นายจุมพล กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อผลประโยชน์สูงสุดกับนักลงทุน กองทุน CPAM KEQ จึงถูกออกแบบให้ในปีแรกกองทุนจะทำการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ 2 ครั้ง โดยครั้งแรก เมื่อหน่วยลงทุนมีมูลค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 10.50 บาท**ต่อหน่วยขึ้นไป ณ วันทำการใด บริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในอัตรา 0.50 บาทต่อหน่วย ภายใน 5 วันทำการจากวันที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว และครั้งที่สอง เมื่อหน่วยลงทุนมีมูลค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 11 บาท**ต่อหน่วย ณ วันทำการใด บริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในอัตรา 0.50 บาทต่อหน่วย ภายใน 5 วันทำการจากวันที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว

ทั้งสองครั้งจะสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนไปยังกองทุนเปิด CIMB-PRINCIPAL TREASURY (กองทุนตลาดเงิน) และหลังจากนั้นกองทุนนี้จะเปลี่ยนเป็นกองทุนเปิดในชื่อ กองทุนเปิดซีแพม เกาหลี อิควิตี้ เพื่อเปิดให้นักลงทุนสามารถซื้อ-ขายได้ทุกวันทำการ เพื่อเป็นการเพิ่มผลตอบแทนให้โตต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม หากภายในระยะเวลา 1 ปีนับตั้งแต่จดทะเบียนกองทุน มูลค่าหน่วยลงทุนไม่ถึงเป้าหมายที่กำหนด กองทุนก็จะเปลี่ยนเป็นกองทุนเปิดเพื่อให้นักลงทุนสามารถซื้อ-ขายหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการเช่นกัน

กองทุน CPAM KEQ จะเปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) ระหว่างวันที่ 1-8 เมษายน 2557 มูลค่าหน่วยละ 10 บาท โดยลงทุนขั้นต่ำ 5,000 บาท ซึ่งจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนหลักคือ Mirae Asset Korea Equity Fund เพียงกองทุนเดียว โดยมีนโยบายการลงทุนในหุ้นบริษัทยักษ์ใหญ่ในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ของเกาหลีใต้ เช่น SAMSUNG ELECTRONICS SK TELECOM และ HYUNDAI MOTOR เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมากองทุนสามารถสร้างผลตอบแทนได้ดี และเราคาดหวังว่ากองทุนจะสามารถสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนตามเป้าหมายของกองทุนที่ตั้งไว้

"การเปิดกองทุนไปลงทุนในตลาดหุ้นเกาหลีครั้งนี้ เนื่องจากมองว่ามีโอกาสที่จะได้ผลตอบแทนที่ดี เนื่องจากปัจจุบันตลาดหุ้นของไทย ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การเมือง โดยปัจจุบันตลาดหุ้นเกาหลีค่อนข้างหน้าสนใจ เนื่องจากราคายังค่อนข้างถูกหากเทียบกับประเทศในเอเชีย โดยปัจจุบัน P/E 8-9 ขณะที่ GDP ก็มีการเติบโตได้ค่อนข้างดี"

สำหรับตลาดหุ้นของไทยเอง ในระยาวยังเชื่อว่าเป็นตลาดที่มีความหน้าสนใจ แต่ปัจจุบันยังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมือง โดยมองว่าหากมีรัฐบาลใหม่เข้ามา จะยังไม่เร่งผลักดันการเติบโตของเศรษฐกิจ แต่จะเร่งการปฏิรูปมากกว่า จึงมองว่าปีนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยจะเคลื่อนไหวอยู่ที่ 1,200-1,400 จุด โดยมองกำไรบริษัทฯจดทะเบียนปีนี้จะเติบโตได้ราว 8% ซึ่งก็ยังถือว่าไม่เลวร้ายนัก เนื่องจากพื้นฐานเศรษฐกิจของประเทศไทยก็ยังมีความเข็งแกร่งอยู่


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ