บลจ.กรุงศรีส่งกองตราสารหนี้ 6M91 ผลตอบแทน 2.95%ต่อปี ขาย16-22เม.ย.

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday April 16, 2014 13:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.กรุงศรี (KSAM) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเปิดเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ 6M91(KFFIX6M91) อายุประมาณ 6 เดือน เดือน เสนอขายวันที่ 16–22 เมษายน 2557 เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับการลงทุนในตราสารหนี้เหมาะกับนักลงทุนที่มองหาการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำและต้องการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก และต้องการล็อคผลตอบแทน โดยสามารถลงทุนได้เป็นระยะเวลาประมาณ 6 เดือน

กองทุนดังกล่าวมีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น เงินฝากธนาคาร China Construction Bank เงินฝากธนาคาร Bank of China (สาธารณรัฐประชาชนจีน สาขามาเก๊า) สัดส่วนการลงทุน 20% (สาธารณรัฐประชาชนจีน ฮ่องกง) สัดส่วนการลงทุน 20% ตราสารหนี้ EMTN ออกโดยธนาคาร Industrial and Commercial Bank of China (Asia) (สาธารณรัฐประชาชนจีน, ฮ่องกง) สัดส่วนการลงทุน 10% ตราสารหนี้ EMTN ออกโดยธนาคาร Bank of East Asia (สาธารณรัฐประชาชนจีน, ฮ่องกง) สัดส่วนการลงทุน 10% ตราสารหนี้ EMTN ออกโดยธนาคาร Agricultural Bank of China (สาธารณรัฐประชาชนจีน, ฮ่องกง) สัดส่วนการลงทุน 10% ตราสารหนี้ระยะสั้นออกโดยธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 10% ตราสารหนี้ระยะสั้นออกโดยธนาคาร กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 10% และตั๋วแลกเงินออกโดยบริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 10%

ทั้งนี้ กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน โดยนักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนจากการขายคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติประมาณ 2.95% ต่อปี และหลังครบกำหนดอายุโครงการบริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติและสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนไปยังกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารเงิน (KFCASH) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตลาดเงิน เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนต่อไป

นายฉัตรพี กล่าวว่า ไอเอ็มเอฟได้ปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ลงสู่ขยายตัวร้อยละ 3.6 จากคาดการณ์เดิมเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาที่ร้อยละ 3.7 หลังผลผลิตของยุโรปและญี่ปุ่นอ่อนแอลง ทั้งนี้ ไอเอ็มเอฟคาดว่า การที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ อังกฤษ และเยอรมนีขยายตัวดีขึ้น จะเป็นแรงกระตุ้นสำหรับการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ สำหรับอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ภาครัฐของสหรัฐฯปรับลดลงร้อยละ0.02–0.10 ในส่วนของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยปรับตัวลงร้อยละ 0.01–0.08 และเส้นอัตราผลตอบแทนมีลักษณะแบนราบลง เนื่องจากมีแรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติและปริมาณพันธบัตรที่ออกจำหน่ายมีน้อย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ