ทั้งนี้ จากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และอัตราดอกเบี้ยที่ทรงตัวในระดับต่ำดังกล่าว ทำให้ผู้ฝากเงินและนักลงทุนมองหาโอกาสการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำแต่สามารถสร้างผลตอบแทนได้สูงกว่าเงินฝาก ซึ่ง "กองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตร 1 ปี (TISCO 1 Year Bond Fund)" เป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ดังกล่าว และจากกระแสตอบรับจากผู้ลงทุนที่ดีมาก ทำให้ขณะนี้มีขนาดกองทุนใกล้เต็มมูลค่าโครงการที่ 2,000 ล้านบาท และยังคงมีผู้สนใจและต้องการลงทุนอยู่เป็นจำนวนมาก ล่าสุด บลจ. ทิสโก้ จึงเพิ่มทุนกองทุนดังกล่าวอีกจำนวน 1,000 ล้านบาท รวมเป็น 3,000 ล้านบาท เพื่อรองรับความต้องการของนักลงทุนที่สนใจลงทุนอย่างต่อเนื่อง
นายสาห์รัช กล่าวว่า กองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตร 1 ปี ได้รับการตอบรับที่ดี เนื่องจากมีผลงานการบริหารกองทุนที่สร้างผลตอบแทนได้น่าพอใจ โดยผลการดำเนินงานของย้อนหลัง 3 เดือน และ 6 เดือน มีผลตอบแทนที่ 3.79% และ 4.10% ตามลำดับ (ณ วันที่ 28 มี.ค.57) ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานดัชนีอัตราผลตอบแทนของการลงทุนในพันธบัตรที่มีอายุ 1 ปี หรือ Zero Rate Return Index ที่อยู่ที่ 3.35%และ 3.54% ตามลำดับ ซึ่งผลตอบแทนที่ผ่านมาถือได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจเมื่อเทียบกับเงินฝาก ดังนั้นกองทุนปิด ทิสโก้ พันธบัตร 1 ปี นี้ ถือเป็นคำตอบที่เหมาะสมสำหรับการลงทุนในช่วงสภาวะดอกเบี้ยต่ำในขณะนี้
“กองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตร 1 ปี"เป็นกองทุนรวมตราสารหนี้ ที่มีนโยบายเน้นการลงทุนส่วนใหญ่ในตราสารภาครัฐพันธบัตรรัฐบาล ตั๋วเงินคลังพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย และพันธบัตรที่กระทรวงการคลังเป็นผู้ออก และเงินลงทุนส่วนที่เหลือจะลงทุนในสินทรัพย์อื่น อาทิ เงินฝาก ตัวแลกเงิน ตั๋วสัญญาใช้เงิน และหุ้นกู้ ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้ไม่มาก และมีระยะเวลาการลงทุนประมาณ 1 ปีขึ้นไป ถือเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่ง นอกเหนือจากการฝากเงิน