KTB-KTC เสนอบริการชำระสินเชื่อบ้านผ่านบัตรเครดิตหวังกระตุ้นตลาด H2/57

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday April 21, 2014 16:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารกรุงไทย(KTB) ร่วมกับ บมจ.บัตรเครดิตกรุงไทย(KTC)ให้ลูกค้าชำระค่างวดสินเชื่อบ้านผ่านบัตรเครดิตเคทีซีครั้งแรกในไทย หวังดันยอดสินเชื่อเร่งตัวในช่วงต่อจากนี้หลังจากชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาการเมือง ส่วนสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL)ยังต่ำกว่าระบบและยังไม่มีสัญญาณปัญหา ส่วน KTC คงเป้ายอดใช้จ่ายผ่านบัตรตามเดิม แม้ไตรมาส 1/57 เติบโตแค่ 4% ต่ำกว่าเป้าหมายทั้งปีนี้ที่เติบโต 15% โดยคาดว่าครึ่งปีหลังจะเร่งตัวขึ้นเช่นกัน
นายเวทย์ บุญเจริญ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานธุรกิจรายย่อยและเครือข่าย KTB เปิดเผยว่า ธนาคารได้ร่วมกับกลุ่มบริษัททางการเงินในเครือออกผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการ และสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าทุกกลุ่ม โดยล่าสุดธนาคารได้ร่วมกับ KTC ออกบริการ สินเชื่อบ้านกรุงไทย...ผ่อนบ้านผ่านบัตร ให้ลูกค้าสินเชื่อที่อยู่อาศัยรายใหม่ของธนาคารชำระและค่างวดผ่านบัตรเครดิตเคทีซีได้เป็นครั้งแรกในประเทศ โดยการตัดบัญชีบัตรเครดิตอัตโนมัติ เพื่ออำนวยความสะดวกในการชำระค่างวดได้ดียิ่งขึ้น และยังรับสิทธิประโยชน์จากการชำระค่าบัตรเครดิตอีกมากมาย

“สินเชื่อดังกล่าวธนาคารให้วงเงินกู้สูงสุด 95% ของราคาประเมิน โดยในช่วง 1-6 เดือนแรก ธนาคารคิดอัตราดอกเบี้ย 0.99% ต่อปี ช่วงเดือนที่ 7-12 คิดอัตราต่ำสุดที่ MRR -4% ต่อปี สำหรับปีที่ 2-3 คิดอัตราต่ำสุดที่ MRR -1.7% ต่อปี หลังจากนั้น คิดอัตรา MRR -1.6% ต่อปี สำหรับในช่วงเปิดตัวจัดแคมเปญพิเศษสำหรับลูกค้าที่ยื่นคำขอ สินเชื่อบ้านกรุงไทย...ผ่อนบ้านผ่านบัตร ภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2557 และทำนิติกรรมจำนองภายใน 60 วันนับจากวันที่ได้รับอนุมัติสินเชื่อ สามารถเลือกผ่อนชำระค่างวดในอัตราล้านละ 1,000 บาท นาน 6 รอบบิล"นายเวทย์ กล่าว

นายเวทย์ กล่าวอีกว่า ในปีนี้ธนาคารคงเป้าสินเชื่อบ้านไว้ที่ 5 หมื่นล้านบาท โดยในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ทำได้กว่า 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนราว 20% เนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัวลง ประกอบกับสถานการณ์การเมืองสร้างผลกระทบต่อความมั่นใจของผู้บริโภคต่อเนื่องมาจากปลายปี 56 ที่ผ่านมาส่งผลให้ภาพรวมสินเชื่อบ้านชะลอตัวลง อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังเชื่อว่าจะควบคุมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL) ในปีนี้ไม่ให้สูงเกินไป เนื่องจากปัจจุบันอยู่ที่ 1.6% ถือว่าต่ำกว่าภาพรวมอุตสาหกรรมที่อยู่ในระดับกว่า 2% เป็นผลมาจากธนาคารได้ควบคุมและมีระบบติดตามหนี้ที่ดี นอกจากนี้ ยังมีการขยายระยะเวลาการชำระหนี้ออกไปในลูกค้าที่มีปัญหา "NPL ของเรายังถือว่าอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าตลาด เพราะเราได้เข้าไปดูแลลูกค้าของเราอย่างต่อเนื่อง และหามาตรการต่างๆให้เหมาะกับปัญหาที่เกิดขึ้นกับลูกค้า ภาพรวม NPL ของเราจึงยังถือว่าอยู่ในระดับที่ต่ำ และเรายังสามารถควบคุมได้"นายเวทย์ กล่าว

ด้านนายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KTC เปิดเผยว่า การร่วมมือกับธนาคารกรุงไทยในการออกแคมเปญ สินเชื่อบ้านกรุงไทย...ผ่อนบ้านผ่านบัตร ครั้งนี้ถือเป็นการต่อยอดผลิตภัณฑ์ซึ่งกันและกัน และนับเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่งที่จะช่วยให้ผู้ซื้อบ้านที่เป็นสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีกว่า 1.6 ล้านบัตร ได้รับสิทธิพิเศษอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในเมืองไทย

สมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี สามารถชำระค่างวดสินเชื่อบ้านผ่านบัตรเครดิตเคทีซี โดยมีระยะการชำระคืนปลอดดอกเบี้ยสูงสุด 45 วัน และทุกค่างวดที่ผ่อนชำระ 25 บาท จะได้รับ 1 คะแนนสะสม Forever Rewards หรือคะแนนสะสม KTC ROP ตลอดอายุสัญญา พิเศษรับคะแนนสะสม 2 เท่า สำหรับยอดจ่ายค่างวดผ่อนบ้าน 3 รอบบิลแรกอีกด้วย โดยสามารถนำคะแนนสะสม Forever Rewards แลกรับส่วนลดหรือใช้แทนเงินสด แลกของภายในบ้าน เฟอร์นิเจอร์ หรือจะใช้แลกกิน ช้อป หรือใช้แลกไมล์สะสมเพื่อเดินทางท่องเที่ยวได้อีกด้วย ตอบโจทย์ความสุขที่เป็นคุณ

นางพิทยา วรปัญญาสกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจบัตรเครดิต KTC เปิดเผยว่า บริษัทฯยังคงเป้าหมายยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเติบโต 15% จากปีก่อน ถึงแม้ว่าในช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมาจะเติบโตต่ำกว่าเป้าหมายโดยมีการเติบโตเพียง 4% เท่านั้น แต่สัญญานเริ่มดีขึ้นตั้งแต่ช่วงเดือน มี.ค. โตจาก ก.พ. ถึง20% และเชื่อว่าสถานการณ์การเมืองที่มีแนวโน้มดีขึ้น จะส่งผลให้ในช่วงครึ่งปีหลังความมั้นใจด้านต่างๆกลับมา และกำลังซื้อก็จะกลับมาด้วย

"ถึงแม้ในช่วงที่ผ่านมาเราไม่ได้มีแคมเปญใหญ่ๆแต่เราก็ยังร่วมมือกับพันธมิตรในการออกแคมเปญใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะกระตุ้นยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรให้เพิ่มขึ้น และหลังจากที่สถานการณ์ต่างๆเริ่มดีขึ้น เราก็เริ่มเห็นสัญญาณที่ดีตั้งแต่ช่วงเดือน มี.ค.ที่ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ช่วงครึ่งปีหลังเรามองว่าสถานการณ์การเมืองก็จะดีขึ้นช่วยให้ความมั่นใจกลับมา จะส่งผลให้ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรจะเติบโตได้ตามเป้าหมาย 15%"นางพิทยา กล่าว

สำหรับยอดผิดนัดชำระของบริษัทฯอยู่ที่ระดับ 2.7% ก็ยังถือว่าอยู่ในระดับต่ำกกว่าอุตสาหกรรม และยังอยู่ในระดับที่ควบคุมได้และยังไม่มีสัญญาณที่แย่ลง ขณะที่เป้าหมายต่อจากนี้ไปจะเน้นโปรโมชั่นการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวและการใช้จ่ายผ่านบัตรในต่างประเทศ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ