(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าทรงตัวหรือปรับขึ้น เล็งแรงหนุน Flow ต่างชาติยังไหลเข้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday April 23, 2014 09:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการอำนวยการ สายงานวิจัยลูกค้าบุคคล บล.บัวหลวง(BLS) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าทรงตัวหรืออาจปรับตัวขึ้น เนื่องจากเม็ดเงินต่างชาติยังคงไหลเข้าเอเชียอย่างต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 3 แม้การเมืองยังไม่มีความคืบหน้าสำคัญ โดยวันนี้ติดตามศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาคำร้องของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีที่ขอเลื่อนการชี้แจงข้อกล่าวหาโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี จากตำแหน่งเลขาธิการ สภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.)

ขณะที่บรรยากาศโดยรวมของตลาดฯน่าจะถูกสนับสนุนด้วยเม็ดเงินต่างชาติ โดย Flow ต่างชาติคงจะไหลเข้ามาที่หุ้นขนาดใหญ่ นำโดยกลุ่มแบงก์, สื่อสาร และ SCC ส่วน Flow ในประเทศก็คงจะไหลเข้ามาที่หุ้นขนาดกลาง-เล็ก

ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างอยู่ในแดนบวกเป็นการ Rebalance จาก Flow ในตลาดที่พัฒนาแล้วไหลเข้ามาในตลาดเอเชียบ้าง หลังจากที่ตลาดเอเชียมีการเทรดที่ P/E ถูกกว่าตลาดพัฒนาแล้ว แม้ว่าภาพหลายอย่างในเอเชียจะมีการชะลอตัว อย่างเช่น ตัวเลข PMI ของจีนที่ต่ำกว่าระดับ 50 แสดงให้เห็นว่าภาคการผลิตของจีนหดตัว สะท้อนให้เห็นว่าการบริโภคไม่ดี

วันนี้ให้แนวรับ 1,408 จุด ส่วนแนวต้าน 1,420-1,424 จุด พร้อมกล่าวว่าสภาพคล่องตลาดฯยังใช้ได้ ดังนั้น จึงสามารถเลือกเล่นหุ้นเป็นรายตัว โดยเลือกเล่นหุ้นขนาดกลางที่มีโอกาส Outperform และหุ้นที่ระยะ 6 เดือนแรกไม่ได้รับแรงกระทบจากเศรษฐกิจ และราคายังไม่แพง

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(22 เม.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,514.37 จุด เพิ่มขึ้น 65.12 จุด (+0.40%) ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,879.55 จุด เพิ่มขึ้น 7.66 จุด(+0.41%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,161.46 จุด เพิ่มขึ้น 39.91 จุด(+0.97%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 91.64 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 4.75 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 124.58 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 5.84 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 8.44 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.20 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดเมื่อวานนี้(22 เม.ย.)ที่ 1,415.05 จุด เพิ่มขึ้น 1.98 จุด(+0.14%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,888.40 ล้านบาท เมื่อวันที่ 22 เม.ย.57
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(22 เม.ย.)ที่ 102.13 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 2.24 ดอลลาร์ฯหรือ 2.2%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(22 เม.ย.)ที่ 6.42 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเช้านี้ 32.33/34 ทรงตัวจากวานนี้ รอผลประชุมกนง.บ่ายนี้
  • ทีมเศรษฐกิจรัฐบาลประเมินเลือกตั้งช้า ผลกระทบต่อเศรษฐกิจมากขึ้น ยืดเยื้อปลายปีมีโอกาสจีดีพีติดลบ ด้านสำนักงบ คาดงบปี 2558 ประกาศใช้อย่างเร็วเดือนเม.ย. 2558 ขณะ"ยิ่งลักษณ์"ห่วงจัดเก็บ รายได้ ถก 3 หน่วยงานเก็บภาษีวันนี้
  • กกต.เปิดโมเดลวันเลือกตั้ง ส.ส.3 ช่วง 20 ก.ค.-17 ส.ค.-14 ก.ย."โภคิน"ชี้กรอบ 90 วันนานเกินไป หวั่นมีรัฐบาลช้ากระทบ ร่างพ.ร.บ.งบประมาณ จี้ร่นเลือกตั้ง สุดท้ายไร้มติ กกต.เตรียมนำข้อเสนอถกรัฐบาลต่อ "ชพน.-พลังชล-มหาชน"หนุนหย่อนบัตร 20 ก.ค.ปชป.แจง"อภิสิทธิ์"งดร่วมเกรงไม่ปลอดภัย
  • คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(เรกูเลเตอร์)จะสรุปค่าไฟฟ้าผันแปร(เอฟที)ในสัปดาห์นี้โดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากงวดเดือนม.ค.-เม.ย.อีกหน่วยละ 5-10 สตางค์ จากปัจจุบันค่าเอฟทีอยู่ที่ 59 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งจะทำให้ค่าไฟฟ้าตั้งแต่เดือน พ.ค.-ส.ค.จะสูงกว่า 3.82 บาทต่อหน่วย
  • นายอนุวัตร เฉลิมไชย นายกสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เศรษฐกิจประเทศไทยปีนี้อยู่ในภาวะมืดมนจากปัญหาการเมืองที่ยืดเยื้อและไร้ทางออกส่งผลให้ไตรมาสแรกสินค้าแทบทุกกลุ่มยอดขายหดตัวลงมากกว่า 10% ขณะที่ในไตรมาส 2 ถือเป็นช่วงที่การตลาดเข้าสู่ช่วงโลว์ซีซั่น
  • "แบงก์ชาติ" ยืนยันยังติดตามดูแลการคิดค่าธรรมเนียมของธนาคารพาณิชย์ใกล้ชิด โดยเน้นความเป็นธรรมกับทั้งผู้บริโภค-ผู้ให้บริการ ล่าสุดขยับเพิ่มเพดานโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์เป็น 50,000 บาทต่อครั้ง จากเดิม 30,000 บาท เผยอนาคตส่อขยายเพิ่ม พร้อมเล็งปรับค่าฟีระบบไอแคสใหม่ ยอมรับต้องระวังอุปสรรคการพัฒนาธุรกิจด้วย
  • อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ปัญหาการเมือง และเงินบาทที่อ่อนค่าอย่างต่อเนื่องทำให้ยอดสินค้านำเข้าลดลงมาก เพราะผู้นำเข้าต้องเสียภาษีมากขึ้น โดยเฉพาะรถหรูนำเข้าราคาแพงที่ได้รับผลกระทบจากเงินบาทอ่อนค่ามากที่สุด โดยเงินบาทที่อ่อนค่าลง 2 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ทำให้รถนำเข้าที่สำแดงราคาคันละ 1 แสนเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 3 ล้านบาท ต้องจ่ายภาษีเพิ่มขึ้นถึง 7 แสนบาท

*หุ้นเด่นวันนี้

  • PTTEP(ทรีนีตี้)"ซื้อ"เป้า 183 บาท ซื้อกิจการ HESS ในไทยสำเร็จรวมมูลค่าราว 1 พันล้านเหรียญฯในโครงการคอนแทร็ค 4 และสินภูฮ่อมกำลังผลิตน้ำมันดิบรวมราว 18,000 บาร์เรล และก๊าซธรรมชาติราว 500 ล้าน ลบ.ฟุต/วัน ทำให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นราว 4,000-5,000 บาร์เรล คิดเป็นเพียง 1.6% ของกำลังการผลิตปัจจุบัน ไม่ส่งผลบวกต่อผลประกอบการใน 2Q57 อย่างมีนัย อย่างไรก็ตามยังคงได้อานิสงส์ราคาน้ำมันดิบที่อยู่ในระดับสูงจากความกังวลต่อสถานการณ์ในยูเครน
  • GFPT(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 16 บาท คาดกำไรสุทธิ 1Q14 โตก้าวกระโดด 215% Y-Y จากฐานต่ำในปีก่อนและจากปริมาณขายไก่ส่งออกที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ยังมีวัตถุดิบในราคาต่ำใช้อยู่ แต่กำไรน่าจะลดลง 12% Q-Q ตามฤดูกาล แนวโน้มกำไรใน 2Q14 ดีขึ้นเล็กน้อย Q-Q ก่อนจะดีสุดใน 3Q14 ซึ่งเป็น high season ยังคงประมาณการกำไรสุทธิปีนี้โต 12% Y-Y
  • THCOM (เคเคเทรด)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 43 บาท(รวมดาวเทียมไทยคม 7)การปรับตัวลงของราคาหุ้นในช่วงเกือบ 2 เดือนส่งผลให้ล่าสุดราคาหุ้นกลับมามี Potential Upside Gain ราว 6.2% สะท้อนความเป็นไปได้ที่ผลการดำเนินงานใน 1Q57 จะเป็นจุดต่ำสุดของปี 2557 ไปแล้ว ส่วนการยิงดาวเทียมไทยคม 7 ในช่วงกลางปีนี้ เราประเมินว่าจะเริ่มมีกำไรในปี 2559 และเพิ่มมูลค่าหุ้นได้ราว 1 บาท/ หุ้น
  • IVL(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"ช่วงสั้น เพื่อคาดหวังการ Turnaround ของผลประกอบการในปีนี้ตั้งแต่ 1Q57 เป็นต้นไป ให้ราคาเหมาะสม 24.50 บาท คาด 1Q57 จะพลิกกลับเป็นกำไรสุทธิราว 500-700 ล้านบาทดีขึ้นจากขาดทุนสุทธิใน 4Q56 หลังส่วนต่างราคา PET และ PTA เริ่มเห็นทิศทางฟื้นตัว qoq และราคา PX ปรับลงเป็นปัจจัยบวกให้ส่วนต่างราคา PTA เร่งตัวขึ้น และคาดกำไรปกติ 2Q57 เพิ่มขึ้น qoq เพราะจะไม่มีผลขาดทุนจาก Inventory ที่ต้องบันทึกใน 1Q57 และส่วนต่างราคา PET, PTA ยังมีทิศทางขยับขึ้น qoq เบื้องต้นคาดกำไรปกติ 2Q57 มีโอกาสขยับขึ้นเป็น 1,200-1,500 ล้านบาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ