LH คาด Q1/57 ยอดโอนดีกว่า Q1/56 การเมืองไม่กระทบ, เร่งเปิดโครงการใหม่ Q2/57

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday April 24, 2014 18:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอดิศร ธนนันท์นราพูล รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH) กล่าวว่า ยอดโอนโครงการในไตรมาส 1/57 คาดว่าจะสูงกว่างวดเดียวกันปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นการรับรู้จากยอดขายรอโอน(backlog)ที่ขณะนี้มีอยู่ราว 1.5 หมื่นล้านบาท ขณะที่มีการเปิดโครงการใหม่เพียง 4 โครงการ ซึ่งในไตรมาส 2/57 จะมีการเปิดโครงการมากกว่าทุกไตรมาสของปีนี้ จากเป้าหมายการเปิดโครงการใหม่ทั้งหมด 21 โครงการ มูลค่ารวม 3.5 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทยังคงเป้าหมายปี 57 มียอดโอน 25,000 ล้านบาท เติบโต 8-9% จากปีก่อนที่มียอดโอน 22,900 ล้านบาท และยอดพรีเซลที่ 32,000 ล้านบาท จากปีก่อน 30,200 ล้านบาท พร้อมทั้งตั้งงบซื้อที่ดินราว 7 พันล้านบาท สูงกว่าปีก่อนที่ใข้ไปราว 6 พันล้านบาท

บริษัทยังมีนโยบายที่จะเพิ่มรายได้จากค่าเช่า โดยในปีนี้เตรียมเปิดโครงการอพาร์ทเม้นท์ให้เช่าย่านทองหล่อ มูลค่าโครงการประมาณ 2,400 ล้านบาท รวมค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง โดยในปีนี้คงจะใส่เงินลงทุนในโครงการดังกล่าวราว 400-500 ล้านบาท เพื่อเริ่มก่อสร้างในช่วงปลายปี เนื่องจากบริษัทมีเป้าหมายที่จะขยีบสัดส่วนรายได้จากค่าเช่าขึ้นจาก 10% ในปี 56 แต่ขณะนี้สถานการณ์การเมืองสร้างผลกระทบพอสมควร จึงอาจจะยังทำไม่ได้ตามเป้าหมาย เพราะอัตราการเข้าพักลดลง

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมีรายได้ค่าเช่าจากอพาร์ทเม้นท์ที่ไปลงทุนไว้ในต่างประเทศ คือที่ซานฟรานซิสโกในสหรัฐ มูลค่าราว 3,700 ล้านบาท ซึ่งในปีนี้จะรับรู้รายได้ค่าเช่าเต็มที่ทั้งปี และยังมองหาโอกาสการลงทุนเพิ่ม เพราะมีความมั่นใจหลังจากเห็นตัวเลขจ้างงานในสหรัฐยังอยู่ในระดับที่ดี และบริเวณดังกล่าวใกล้กับที่ตั้งของสำนักงานใหญ่แอปเปิ้ล และเฟซบุ๊ก ที่มีพนักงานจำนวนมาก

"ปีนี้ทุกอย่างดีหมด ยกเว้นยอดขายเพราะการเมืองทำให้ยอดขายคาดการณ์ได้ยาก เพราะกำลังซื้อถูกกระทบและไม่รู้จบเมื่ดใด แต่ตัวที่ดีคือต้นทุน ภาวะตึงตัวแรงงาน การจ้างเหมาดีหมด ถือว่าสบายๆ ในส่วนนี้ ส่วนธุรกิจค่าเช่าถ้าไม่มีการเมืองควรขยับขึ้น เพราะโรงแรมอพาร์ทเม้นอัตราเข้าพักตกลง ถึงแม้ปรับราคาก็ยังไม่ช่วย"นายอดิศร กล่าว

ส่วนการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนอสังหาริมทรัพย์ ตามแผนที่วางไว้จะนำศูนย์การค้าในโครงการเทอร์มินัล 21 ขายเข้าเป็นสินทรัพย์ของกองทุน มูลค่าประมาณ 6 พันล้านบาท ยังไม่ได้รวมพื้นที่โรงแรม แต่ราคาประเมินทั้งโรงแรมและพื้นที่ศูนย์การค้าอยู่ที่ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท หากจะขายก็ต้องได้ราคาดี จึงต้องรอภาวะตลาดที่เหมาะสม รวมถึงราคาหุ้นกองอสังหาฯ ก็ควรจะปรับขึ้นมากกว่านี้ ภาวะอัตราดอกเบี้ยนิ่ง ซึ่งหากเหตุการณ์บ้านเมืองไม่เปลี่ยนแปลงไปมากก็คงจะสามารถเสนอขายหน่วยลงทุนได้ในเร็วๆ นี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ