"ราคาก๊าซ LPG ในตลาดโลกช่วงไตรมาส 2/57 มีทิศทางปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/57 และคาดว่าราคาจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกในช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากเป็นการปรับเพิ่มขึ้นตามฤดูกาล และ ความต้องการใช้ก๊าซ LPG ที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในประเทศจีน จากการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมปิโตรเคมี สนับสนุนเป้าหมายทั้งปีให้เป็นไปตามที่วางไว้ได้"นางจินตณา กล่าว
สำหรับธุรกิจในประเทศในช่วงที่ผ่านมาที่มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง มองว่าจะทำให้สถานการณ์ต่างๆ คลี่คลายขึ้น แต่เนื่องจากก๊าซ LPG เป็นสินค้าจำเป็น จึงไม่กระทบต่อสถานการณ์ดังกล่าวมากอยู่แล้ว ขณะเดียวกัน จากการที่ คสช. ประกาศให้คงราคาก๊าซ LPG ภาคครัวเรือนที่ 22.63 บาท/กก. มองว่าเป็นผลบวก เพราะจะทำให้ส่วนต่างราคาก๊าซหุงต้มภาคครัวเรือนกับภาคขนส่งใกล้เคียงกัน และทำให้ไม่เกิดการจำหน่ายก๊าซผิดประเภท
ทั้งนี้ ยังมองว่าปริมาณความต้องการใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิงทางเลือกยังคงมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ ยังคงเดินตามแผนเดิมที่วางไว้จะขยายสาขาปั๊มก๊าซ LPG ของบริษัทฯ เพิ่มเติมเป็น 40 ปั๊มให้ครอบคลุมทุกพื้นที่มากขึ้น จากเมื่อสิ้นปี 2556 บริษัทฯ มีปั๊มก๊าซทั้งสิ้น 34 ปั๊ม
ด้านผลประกอบการงวดประจำไตรมาส 1/57 มีรายได้จากการขาย รายได้จากการขนส่ง และรายได้จากการให้บริการอยู่ที่ 13,439.66 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิที่ 169.81 ล้านบาท อันเนื่องมาจากทิศทางราคาก๊าซในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ปรับลดลงไปบ้างเมื่อเทียบกับช่วงปลายปี 56 ซึ่งถือว่าเป็นการเคลื่อนไหวของราคาที่เป็นปกติตามฤดูกาลและความต้องการใช้ก๊าซในช่วงต้นปีอยู่แล้ว บริษัทเองไม่กังวลกับการลดลงของราคามากนัก เนื่องจากบริษัทมีสต๊อกสินค้าอยู่ในระดับที่ต่ำเพียงพอต่อความต้องการขายในเดือนต่อเดือนเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ในช่วงไตรมาส 2/57 ทิศทางราคาก๊าซ LPG ในตลาดโลก มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีของธุรกิจในต่างประเทศ ในช่วงต่อจากนี้ มั่นใจภาพรวมผลงานทั้งปี บริษัทฯ เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ได้