(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ทรงตัว-แกว่งขึ้น เล็งเลิกใช้เคอร์ฟิวทั่วปท.ช่วยหนุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday June 16, 2014 09:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ทรงตัวถึงแกว่งตัวขึ้นได้ โดยมีแรงหนุนจากการยกเลิกใช้เคอร์ฟิวทั่วประเทศ และคาดหวังการทำงานของคสช.ในเชิงบวก โดยวันนี้จะมีการหารือร่วมกันในการหาแหล่งเงินกู้สำหรับโครงการลงทุน 3 ล้านล้านบาท

อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังเฝ้าติดตามความไม่สงบจากเหตุการณ์ในอิรัก ซึ่งตรงนี้ทำให้ราคาน้ำมันปรับขึ้นและส่งผลบวกต่อกลุ่มพลังงาน ซึ่งก็ได้เห็นการขยับตัวขึ้นของราคาน้ำมันมาตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมาแล้ว โดยเฉพาะ PTTEP จะได้รับประโยชน์โดยตรง ขณะที่ PTT ยังต้องรอดูความชัดเจนจากการปรับโครงสร้างพลังงานก่อน แต่การลาออกของประธานบอร์ดบมจ.ปตท.(PTT)ก็น่าจะส่งผลดีเพราะทำให้มีความคืบหน้าในการปรับโครงสร้างพลังงาน

ด้านนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้มีการเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบในกรอบแคบ ๆ โดยสัปดาห์นี้ให้จับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ในเรื่องอัตราดอกเบี้ย ซึ่งก็คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ก่อน และคงจะมีการลดการซื้อพันธบัตร(QE)อีก 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ อีกทั้งให้รอดูมุมมองของเฟดในเรื่องเศรษฐกิจ ซึ่งก็คาดว่าจะมีการปรับประมาณการเศรษฐกิจของสหรัฐลดลง จากเดิมที่คาดโต 2.8-3.0%

พร้อมให้แนวรับ 1,450 จุด แนวต้าน 1,463-1,466 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(13 มิ.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,775.74 จุด เพิ่มขึ้น 41.55 จุด (+0.25%),ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,936.16 จุด เพิ่มขึ้น 6.05 จุด(+0.31%),ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,310.65 จุด เพิ่มขึ้น 13.02 จุด(+0.30%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 48.23 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 0.02 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 20.13 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 0.16 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 3.99 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 0.66 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 1.22 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(13 มิ.ย.) ที่ 1,456.02 จุด ลดลง 1.00 จุด(-0.07%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,009.50 ล้านบาท เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.57
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(13 มิ.ย.)ที่ 106.91 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 38 เซนต์ หรือ 0.4%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(13 มิ.ย.)ที่ 4.14 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 32.37/39 จับตา 2 ประชุมสำคัญ กนง.,FOMC
  • นักเศรษฐศาสตร์ เชื่อ กนง. ตัดสินใจ "คง" ดอกเบี้ยที่ 2% รอดูประสิทธิผลนโยบายโรดแมพฟื้นเศรษฐกิจมากน้อยแค่ไหน คาดหมดยุคดอกเบี้ยขาลง เหตุสถานการณ์การเมืองชัดเจนขึ้น ความเชื่อมั่นผู้บริโภค-นักลงทุนเริ่มกลับมามองดอกเบี้ยอาจขยับขึ้นได้ในต้นปีหน้า
  • คสช.ถกรอบแรก "ปฏิรูปพลังงาน" ไร้ข้อสรุปเตรียมหารืออีก 2 ครั้ง ก่อนสรุปโครงสร้างราคา พล.อ.อ.ประจินย้ำ สอดคล้องแผนปฏิรูปประเทศคาดเสร็จในเดือนมิ.ย.นี้ เริ่มทำบางส่วน ขณะเตรียมตั้งประธานบอร์ดปตท.คนใหม่พรุ่งนี้ หลัง "ปานปรีย์" ยื่นลาออก
  • นายเจน นำชัยศิริ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เผยสถานการณ์การลงทุนในปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงไปมาก จึงเห็นว่าสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ควรจะปรับเปลี่ยนบทบาท โดยควรจะทำหน้าที่ส่งเสริมการลงทุนในต่างประเทศ (เอาต์บราวน์) มากขึ้น รวมทั้งควรจะต้องมีการพิจารณาปรับลดการอุดหนุนทางสิทธิประโยชน์บางรายการลงมา เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพการลงทุนในปัจจุบันและเพื่อให้เอกชนไทยสามารถแข่งขันได้
  • กระทรวงคลัง เล็งปลดล็อกข้อจำกัดตั้ง "ศูนย์บริหารเงิน" ตามข้อเสนอ "แบงก์ชาติ" ดันเข้าโรดแมพเร่งด่วนลำดับที่ 3 เสนอ คสช. พิจารณา เน้นเรื่องภาษี ด้าน ธปท. เผยเป็นเครื่องมือช่วยบริหารความเสี่ยง ค่าเงินให้บริษัทในเครือ ทั้งยังลดต้นทุนการเงินให้ต่ำลง เผยปัจจุบันมีเปิดแล้ว 2 ราย

*หุ้นเด่นวันนี้

  • PREB(เคเคเทรด)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 9.50 บาท เป็นบริษัทผู้รับเหมาขนาดกลางที่เน้นงานหลักมาจากงานฐานราก ทั้งเสาเข็มเจาะ รวมถึงการรับงานถนนปรับหน้าดิน งานอ่างเก็บน้ำ ประวัติการทำงานเคยทำเสาเข็มให้กับผู้ประกอบการในตลาดหลักทรัพย์ และอยู่ระหว่างการทำงานเสาเข็มให้กับรถไฟฟ้าสายสีแดง บริษัทมีความโดดเด่นจากความสามารถในการทำกำไร โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ย 5 ปีที่ระดับ 15% สูงกว่ากลุ่มฯ และซื้อขายที่ PER 9.2 เท่า ต่ำกว่ากลุ่มค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 13 เท่า
  • MC(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 20 บาท เป็นหุ้นในที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคที่เราประเมินว่าจะมีแนวโน้มรายได้ฟื้นตัวหลังการเมืองสงบและการใช้จ่ายเอกชนกลับมาเป็นปกติ คาดว่ากำไรปี 2557 ที่คาดว่าจะเติบโต 25% ยังมีความเป็นไปได้ นอกจากนี้เรา MC ยังเป็นบริษัทที่สถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งจากการปลอดหนี้ ทำให้มีโอกาสที่จะขยายธุรกิจได้ง่าย และจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นได้สม่ำเสมอ โดยคาดว่าในปีนี้ MC จะจ่ายเงินปันผล 0.79 บาท คิดเป็นผลตอบแทนเงินปันผล 4% ปัจจุบัน หุ้นซื้อขายที่ PER 17 เท่า ต่ำที่สุดในหุ้นกลุ่มค้าปลีก
  • PTTEP(กสิกรไทย)เป้า 186 บาท ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นเหนือ 107 เหรียญฯ หลังเกิดเหตุความไม่สงบในประเทศอิรัก ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันอันดับ 2 ในกลุ่ม OPEC, PTTEP ออก Hybrid Bond มูลค่า 3.2 หมื่นลบ. ช่วงลดอัตราหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E ratio) ลงมาที่ 0.3 เท่า พร้อมตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตในปี 57 ไม่ต่ำกว่า 10% รวมทั้งคาดปี 2557 EPS เติบโต 26.0% เทียบกับปี 2556 ที่หดตัวลง 12.5% ปัจจุบันซื้อขายที่เพียง8.9เท่า PER ปี2557 ด้วยคาดการณ์ผลตอบแทนปันผล 3.8%
ส่วนเป้าหมายทางกลยุทธ์ระยะสั้นที่ 160 บาท และ 163 / ตัดขาดทุนที่ 150 บาท
  • AAV(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 5.10 บาท คาดว่าราคาหุ้นกลุ่มโรงแรมและสายการบินจะตอบรับเชิงบวก หลังคสช.ประกาศยกเลิกเคอร์ฟิวทั่วประเทศ ในช่วงค่ำวันศุกร์ที่ผ่านมา, AAV มีความเสี่ยงต่อความผันผวนของราคาน้ำมันค่อนข้างจำกัด เนื่องจากบริหารต้นทุนโดยใช้กลยุทธ์ Hedging ราคาน้ำมันราว 80% จึงช่วยปิดความเสี่ยงจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้น พร้อมคาดผลประกอบการกำลังจะผ่านพ้นจุดต่ำสุดแล้วใน 1H57 และจะมีทิศทางฟื้นตัวใน 2H57 จากปัจจัยการเมืองที่เริ่มนิ่ง และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ จะเป็นตัวแปรสำคัญเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และคาดว่ากำไรปกติปี 2557 จะเติบโต +13.5% yoy เป็น 891 ล้านบาท และเติบโตสูงถึง +86.4% yoy เป็น 1,644 ล้านบาท ในปี 2558 และให้เป็น Top pick ของกลุ่มสายการบิน เนื่องจากการเกิด AEC จะช่วยสนับสนุนการเติบโตในระยะยาว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ