DRT เปิดแผน H2 รุกตลาดลาว-พม่า-กัมพูชา พร้อมเจาะกลุ่มลูกค้าโครงการ

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday July 14, 2014 11:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสาธิต สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการสายการขายและการตลาด บมจ. ผลิตภัณฑ์ตราเพชร (DRT) เปิดเผยว่า แผนดำเนินงานในครึ่งปีหลังบริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญรุกขยายตลาดวัสดุก่อสร้างในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน ที่มีพรมแดนติดประเทศไทย โดยเฉพาะประเทศกัมพูชา ลาวและพม่า ที่ถือเป็นประเทศที่มีศักยภาพการเติบโตในด้านความต้องการวัสดุก่อสร้างเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนขยายตัวแทนจำหน่ายในต่างประเทศเพิ่มเติม เนื่องจากปัจจุบันมีคู่ค้าให้ความสนใจติดต่อขอเป็นตัวแทนจำหน่ายนำสินค้าตราเพชรเข้าไปวางจำหน่ายเพิ่มขึ้นทั้งในกัมพูชา ลาว และพม่า เพื่อรองรับความต้องการของสินค้าวัสดุก่อสร้างที่มีอัตราขยายตัวเพิ่มขึ้น พร้อมกันนี้ ตราเพชรยังได้ให้ความสำคัญกับการนำเสนอนวัตกรรมสินค้าในงานนิทรรศการแสดงสินค้าอุตสาหกรรมก่อสร้างและสินค้าตกแต่งในต่างประเทศเพิ่มเติม ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สะท้อนให้เห็นถึงจุดเด่นผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ โดยคาดว่าจากแนวทางนี้จะช่วยผลักดันสัดส่วนยอดขายจากการส่งออกเพิ่มขึ้นเป็น 15% จากเดิมที่มีสัดส่วน 10% ของยอดขายรวมทั้งหมด

“ครึ่งปีแรก ตลาดส่งออกของเรายังมีอัตราการเติบโตได้โดดเด่นมาก ซึ่งมียอดขายเพิ่มขึ้นจากทุกตลาด โดยมีตลาดส่งออกที่สำคัญของตราเพชร ได้แก่กัมพูชาและลาว ที่มีสัดส่วนยอดขายคิดเป็น 50% จากการส่งออกทั้งหมด และในประเทศเมียนมาร์ ซึ่งมียอดขายแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง จึงมั่นใจว่าปีนี้ยอดขายจากตลาดส่งออกจะเติบโตได้ตามเป้าหมาย" นายสาธิต กล่าว

สำหรับแนวทางทำตลาดในประเทศนั้น บริษัทฯ จะเน้นสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ร้านค้าตัวแทนจำหน่าย โดยจะเข้าไปช่วยพัฒนาช่องทางขายผ่านร้านวัสดุก่อสร้างแบบดั้งเดิม ให้มีพื้นที่จำหน่ายและสามารถนำเสนอสินค้าวัสดุก่อสร้างที่มีความหลากหลายรองรับความต้องการซื้อสินค้าของลูกค้าได้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้แก่ร้านค้าวัสดุก่อสร้างแบบดั้งเดิมได้มากขึ้น

ขณะเดียวกัน จะรุกขยายช่องทางขายผ่านกลุ่มลูกค้าโครงการ รองรับตลาดอสังหาริมทรัพย์ในครึ่งปีหลังที่ผู้ประกอบการพัฒนาที่อยู่อาศัยได้กลับมาเร่งลงทุนพัฒนาโครงการเพิ่มขึ้น หลังภาครัฐมีความชัดเจนต่อนโยบายการลงทุนในระบบสาธารณูปโภค โดยตราเพชรจะชูความพร้อมสินค้าและบริการรองรับความต้องการของลูกค้าโครงการ ซึ่งคาดว่าในปีนี้จะสามารถผลักดันสัดส่วนยอดขายจากลูกค้าโครงการจาก 7-8% เพิ่มเป็น 10-12% ของยอดขายทั้งหมด

“ในครึ่งปีหลัง เรามองสัญญาณเชิงบวกต่อการฟื้นตัวที่ดีของเศรษฐกิจ ที่ส่งผลดีต่อการลงทุนของภาคเอกชนในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และกำลังซื้อของประชาชนจะเพิ่มขึ้น ซึ่งเชื่อว่าด้วยบรรยากาศดังกล่าวจะทำให้ความต้องการสินค้ากลุ่มวัสดุก่อสร้างสูงขึ้น และเป็นโอกาสที่ตราเพชรจะเร่งผลักดันยอดขายเพื่อรักษาอัตราการเติบโตให้เป็นไปตามเป้าที่วางไว้" นายสาธิต กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ