TMB เผยกำไร Q2/57 โต 61% จากไตรมาสก่อน รายได้เพิ่ม-คุมค่าใช้จ่ายดี

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday July 15, 2014 14:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารทหารไทย(TMB) แจ้งว่า กำไรสุทธิในไตรมาส 2/57 มีจำนวน 2,575 ล้านบาท ปรับตัวดีขึ้น 61% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/57 ส่งผลให้กำไรงวด 6 เดือนแรกของปี 57 มีจำนวน 4,177 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ 2,068 ล้านบาทในงวดเดียวกันของปีที่แล้ว

นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย (TMB) กล่าวว่า ธนาคารมีผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2 ดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ โดยสามารถเพิ่มรายได้และควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดี และยังสามารถขยายฐานลูกค้าเงินฝากธุรกรรมทางการเงินอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ธนาคารยังคงดำรงสถานะการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีระดับความเพียงพอของเงินกองทุน (CAR) ภายใต้เกณฑ์ Basel III อยู่ที่ 15.4% โดยเป็นกองทุนชั้นที่ 1 (Tier 1) ในสัดส่วน 10.7 % ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำของธนาคารแห่งประเทศไทยซึ่งกำหนดไว้ที่ 8.5% และ 6.0% ตามลำดับ

“ในครึ่งปีหลังนี้ คาดว่าสินเชื่อน่าจะเติบโตได้ดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรกและขณะเดียวกันธนาคารก็ยังคงมุ่งเน้นการเพิ่มรายได้โดยการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบสนองความต้องการลูกค้าอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับการเพิ่มประสิทธิของการดำเนินงานเพื่อให้ธนาคารมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นต่อไป"นายบุญทักษ์ กล่าว

ทั้งนี้ TMB แจ้งผลประกอบการงวดไตรมาส 2/57 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิจำนวน 2,575 ล้านบาทปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ 1,602 ล้านบาทในไตรมาสที่แล้ว โดยธนาคารมีรายได้จากการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น ทั้งรายได้ดอกเบี้ยรับสุทธิที่เพิ่มขึ้น 4% เนื่องจากธนาคารขยายสินเชื่อได้มากขึ้น และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 14% จากไตรมาสที่แล้ว ส่วนใหญ่มาจากการขยายตัวของค่าธรรมเนียมจากการขายแบงก์แอสชัวรันส์และการขายกองทุน กอรปกับรายได้ค่าธรรมเนียมจากการให้สินเชื่อที่ปรับตัวดีขึ้น

ขณะที่ค่าใช้จ่ายในไตรมาสนี้ลดลงเล็กน้อย เป็นผลให้กำไรจากการดำเนินงานหลักก่อนสำรองของธนาคารปรับตัวดีขึ้นเป็น 3,481 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบ กับ 3,169 ล้านบาทในไตรมาสที่แล้ว

ส่วนการสำรองหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญของธนาคารฯ มีจำนวน 309 ล้านบาทในไตรมาสนี้ ซึ่งลดลงเมื่อเทียบกับ 1,161 ล้านบาทในไตรมาสที่แล้ว เนื่องจากธนาคารมีรายการพิเศษ (one-time item) จากการโอนกลับ (write back) สำรองฯส่วนเกินซึ่งเป็นผลจากการขายและติดตามสินเชื่อมีปัญหา

ด้านสินเชื่อด้อยคุณภาพ(NPL)ของธนาคารและบริษัทย่อยลดลงประมาณ 2,500 ล้านบาทจากไตรมาสที่แล้ว มาอยู่ที่ 20,778 ล้านบาทในไตรมาส 2/57 ทำให้สัดส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวม(NPL ratio)ลดลงมาอยู่ที่ 3.40% จาก 3.85% ขณะที่สัดส่วนสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage Ratio) แข็งแกร่งยิ่งขึ้นเป็น 143% จาก 138% เมื่อไตรมาสที่แล้ว

ปริมาณเงินฝากของธนาคารยังคงเพิ่มขึ้นได้ดีอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาส 2/57 ขยายตัวได้ประมาณ 14,400 ล้านบาทหรือ 2.6% จากไตรมาสที่ 1 และขยายตัว 8.2% ในงวด 6 เดือนแรกของปี โดยเงินฝากที่เพิ่มขึ้น มาจากทั้งเงินฝากลูกค้ารายย่อยในผลิตภัณฑ์เงินฝากที่เป็นจุดเด่นของธนาคาร คือ เงินฝากไม่ประจำ (No fixed) เงินฝาก ME และเงินฝากเพื่อธุรกรรมทางการเงิน (Transactional Banking Account) ซึ่งธนาคารได้ให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่สินเชื่อในไตรมาส 2/57 ขยายตัว 8,800 ล้านบาทหรือ 1.8% และเพิ่มขึ้น 2% ในงวด 6 เดือนแรกของปี เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่และขนาดกลาง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ