ตลท.ร่วม บล.โนมูระฯ โรดโชว์ฮ่องกง-ญี่ปุ่น ต่างชาติสนใจโรดแมปฟื้นประเทศ

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday July 15, 2014 18:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายภากร ปีตธวัชชัย รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลท.ร่วมกับ บล.โนมูระ พัฒนสิน จัดโรดโชว์ “Thailand Corporate Day 2014" เมื่อ 7 และ 9–11 ก.ค.57 โดยนำบริษัทจดทะเบียนไทยพบผู้ลงทุนสถาบันในฮ่องกงและญี่ปุ่น 33 สถาบัน มูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารรวมกว่า 4.33 แสนล้านเหรียญสหรัฐ

ตลท.ได้ให้ข้อมูลเพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้ลงทุน โดยแสดงให้เห็นถึงภาพรวมภาวะหลักทรัพย์และความแข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน(บจ.)ไทย และเศรษฐกิจไทยโดยรวมที่มีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง รวมถึงแนวโน้มการฟื้นตัวและทิศทางเติบโตของประเทศหลังมีการประกาศโรดแมปการฟื้นฟูประเทศ ซึ่งได้รับการตอบรับและความสนใจในการซักถามประเด็นดังกล่าวจากผู้ลงทุนเป็นอย่างดี โดย ตลท.ให้ความสำคัญและวางแผนที่จะให้ข้อมูลแก่ผู้ลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยสร้างความเข้าใจและเพิ่มความเชื่อมั่นในการตัดสินใจลงทุนของกองทุนต่างชาติต่อไป

"จากการโรดโชว์ผู้ลงทุนหลักของเอเชียในฮ่องกงและญี่ปุ่นครั้งนี้ยังคงให้ความสนใจต่อการลงทุนในไทย และต้องการให้สื่อสารข้อมูลอย่างต่อเนื่องเพื่อทำความเข้าใจในสถานการณ์ปัจจุบัน โดยผู้ลงทุนสนใจประเด็นความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยหลังการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ทั้งนี้ ตลท.ได้ให้ข้อมูลซึ่งแสดงให้เห็นว่า บจ.ไทยมีการเติบโตที่ดี มีศักยภาพและมีการขยายธุรกิจในต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นชัดเจน โดยเฉพาะในภูมิภาคอาเซียนซึ่งไทยเป็นศูนย์กลางทางการค้าการลงทุน ซึ่งช่วยให้ บจ.มีที่มาของรายได้จากทั้งในประเทศและต่างประเทศทั่วโลก ส่งผลถึงความสามารถในการรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละภูมิภาคได้ดีขึ้น นับเป็นจุดเด่นของไทยในภูมิภาคนี้"นายภากร กล่าว

นายนิธิ วณิคพันธุ์ ผู้อำนวยการบริหาร สายงานวิจัยหลักทรัพย์ บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ผู้ลงทุนสถาบันในญี่ปุ่นส่วนใหญ่เป็นกองทุนขนาดใหญ่ ที่มีการลงทุนใน บจ.ไทยหลายแห่งและเน้นลงทุนระยะยาว จึงคุ้นเคยและเข้าใจในตลาดหลักทรัพย์ไทยเป็นอย่างดี เมื่อประกอบกับญี่ปุ่นได้มีการลงทุนทั้งทางตรงและในหลักทรัพย์ไทยมานาน จึงเข้าใจถึงสถานการณ์การเมืองไทยและมั่นใจในความแข็งแกร่งของ บจ.โดยส่วนใหญ่สนใจสอบถามในทิศทางการเติบโตของ บจ.

ในส่วนของประเด็นการเมืองจะเน้นทำความเข้าใจในผลกระทบที่มีต่อธุรกิจของบริษัท ดังนั้น ศักยภาพและความแข็งแกร่งของ บจ.แต่ละแห่งจะเป็นปัจจัยหลัก สำหรับการตัดสินใจลงทุน เมื่อการเมืองคลี่คลายและมีความชัดเจนขึ้น

นายวีรพันธ์ พูลเกษ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น(TICON)กล่าวว่า บริษัทได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้ลงทุนญี่ปุ่น ซึ่งส่วนใหญ่มีข้อมูลเกี่ยวกับประเทศไทยทั้งเรื่องเศรษฐกิจและภาวะการลงทุนเป็นอย่างดี จึงมุ่งความสนใจไปที่กลยุทธ์ทางธุรกิจและการเติบโตของบริษัทในอนาคต ทั้งจากการลงทุนเพิ่มตามทิศทางการเติบโตของอุตสาหกรรมในประเทศ และตามการเติบโตของ AEC นอกจากนี้ ยังเห็นว่าเป็นจังหวะเวลาที่ดี ที่จะเลือกลงทุนในหลักทรัพย์ไทยที่มีความน่าสนใจ

สำหรับ บจ.ไทยที่เข้าร่วมโรดโชว์ทั้ง 9 แห่ง ประกอบด้วย บจ.ใน ตลท.ซึ่งอยู่ในดัชนี SET50 และ SET100 ได้แก่ บมจ. อมตะ คอร์ปอเรชั่น (AMATA) บมจ. ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (ERW) บมจ. โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ (HMPRO) บมจ. อินทัช โฮลดิ้ง (INTUCH) บมจ .แม็คกรุ๊ป (MC) บมจ. อสมท. (MCOT) บมจ. เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ (MEGA) บมจ. ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) และ บมจ. ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น (TICON) ทั้งหมดมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (market capitalization) รวมประมาณ 578,112 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 10 ก.ค. 57)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ