สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA)สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้วันนี้ มีมูลค่าการซื้อขายรวม 72,003 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด คือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 42,321 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 58.8% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ ลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 16,642 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 23.1% ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 1,282 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.8% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด
สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB196A, LB236A และ LB176A(รุ่นอายุ 4.9 ปี, 8.9 ปี และ 2.9 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 11,118 ล้านบาท หรือคิดเป็น 67% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้บริษัท ทุนธนชาต จำกัด(มหาชน)(TCAP18NA) มูลค่า 206.8 ล้านบาท
2. หุ้นกู้ บริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน)(THAI16DA) มูลค่า 106.4 ล้านบาท
3. หุ้นกู้บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน)(SCC19OA) มูลค่า 103.1 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 416.4 ล้านบาท หรือคิดเป็น 32.5% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 4,498 ล้านบาท
2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 6,334 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 10,019 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.04% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.05% ปรับตัวลดลงจากเมื่อวาน -0.03%
Yield Curve ปรับลดลงในตราสารอายุ 3 ปี ขึ้นไป ประมาณ 1-4 bps. โดย T-Bills ที่ประมูลวันนี้ได้รับความสนใจจากนักลงทุน 2.52 เท่าของวงเงินประมูล ด้านตลาดยังคงติดตามตัวเลขเศรษฐกิจโลกโดยเฉพาะตัวเลข PMI เดือนก.ค.ของจีนและยุโรป ที่จะประกาศออกมาปลายสัปดาห์นี้ สำหรับนักลงทุนต่างชาติวันนี้ มีแรงซื้อทั้งในพันธบัตรระยะสั้นและระยะยาว ยอดซื้อสุทธิ (NET BUY) เท่ากับ 10,019 ล้านบาท