(เพิ่มเติม1) PCA เพิ่มช่องขาย Set Top Box ผ่านสาขา SVOA-IT หวังดันยอดขายรวม 3.5-7 แสนกล่อง

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday July 22, 2014 15:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.แพลนเน็ต คอมมิวนิเคชั่น เอเชีย(PCA) เตรียมความพร้อมขยายช่องทางใหม่การจัดจำหน่ายกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอล(Set Top Box)ผ่าน บมจ.เอสวีโอเอ(SVOA) ที่มีตัวแทนจำหน่ายร้านค้าไอทีกว่า 1 พันแห่ง และบมจ.ไอที ซิตี้(IT)ที่มีสาขาทั่วประเทศ 79 สาขา เพื่อจำหน่ายและรองรับการแจกคูปองส่วนลดของ กสทช. พร้อมให้คำปรึกษาการติดตั้งและใช้งาน รวมถึงการเป็นศูนย์บริการหลังการขายและรับประกัน

นายประพัฒน์ รัฐเลิศกานต์ กรรมการผู้อำนวยการและหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร PCA เปิดเผยว่า บริษัทคาดหวังว่าจะมีส่วนแบ่งยอดขาย Set Top Box ราว 5-10% จากที่คาดว่าคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคม (กสทช.)จะมีการแจกคูปองส่วนลดให้ภาคครัวเรือน 7 ล้านครัวเรือนในช่วงปลายปีนี้ หรือมียอดขายราว 3.5-7 แสนกล่อง

"วันพรุ่งนี้ทาง กสทช. และ คสช.จะมีการประชุมกันเรื่องการแจกคูปอง ซึ่งเราเชื่อว่าจะมีการแจกคูปองตามแผนเดิมในช่วงเดือน ก.ย.เพราะหากไม่มีการแจกคูปองส่วนลด ตลาดทีวีดิจิตอลก็คงจะซบเซา รวมถึงการจ่ายเงินค่าประมูลอาจมีปัญหา และทาง กสทช.ก็ได้รับปากไว้แล้วก็ต้องผลักดันเพื่อให้เป็นไปตามที่ได้มีการแจ้งให้กับผู้ประมูลก่อนหน้านี้"นายประพัฒน์ กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทได้เตรียมช่องทางการขายไว้หลายช่องทางทั้งการจำหน่ายผ่านโมเดิร์นเทรด, ร้านไอที, AV shop และผ่านออนไลน์ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ทางบริษัทฯได้มีการจำหน่ายไปราว 3 หมื่นกล่องผ่านทางสถานีโทรทัศน์ต่างๆ อาทิ ช่อง 3, ช่อง 5, ช่อง 7 และ ช่อง 9 ส่วนการขายผ่านพันธมิตรทั้ง SVOA และ IT น่าจะมีสัดส่วนการจำหน่าย 20-25% จากเป้าหมายการจำหน่ายทั้งหมดของบริษัท

จุดแข็งของ PCA คือ เราเป็นผู้ให้บริการออกแบบและ จำหน่ายสินค้าด้านเทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคม ระบบถ่ายทอดสัญญาณโทรทัศน์และดิจิตอลทีวีให้แก่สถานีส่งสัญญาณแม่ข่าย รวมทั้งผลิตกล่องรับทีวีดิจิตอลยี่ห้อแพลนเน็ตคอมจนเป็นที่ยอมรับและไว้วางใจในคุณภาพจากสถานีโทรทัศน์ชั้นนำ โดยกล่องนี้มีครบทุกฟังค์ชั่นการทำงานและอุปกรณ์คมชัดสามารถรับสัญญาณที่เป็น SD และ HD รวมทั้งออกแบบให้ทนต่อการใช้งาน 24 ชั่วโมงในภูมิอากาศของประเทศไทยเป็นอย่างดี

กล่องรับทีวีดิจิตอลนี้จำเป็นต้องมีผู้ให้คำปรึกษาและแนะนำให้การติดตั้งอย่างถูกต้องเพื่อให้สามารถรับชมรายการทีวีดิจิตอล 48 ช่องได้อย่างเพลิดเพลินและคมชัด เนื่องจากสถานีส่งสัญญาณแม่ข่ายยังมีการเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงการส่งสัญญาณทีวีดิจิตอลอย่างต่อเนื่องเพื่อให้การออกอากาศมีคุณภาพตามมาตรฐานที่กำหนด ดังนั้น เครื่องรับทีวีดิจิตอลจำเป็นต้องมีการปรับปรุงซอฟแวร์(Firmware Upgrade) ภายในตัวเครื่องด้วยเช่นกัน มิเช่นนั้น ล่องรับทีวีดิจิตอลจะไม่สามารถรับสัญญาณได้ สมบูรณ์

บริษัทฯได้เล็งเห็นความสำคัญดังกล่าวและได้พิจารณาว่าร้านค้าไอทีเป็นอีกช่องทางสำคัญในการจัดจำหน่ายกล่องรับทีวีดิจิตอล เนื่องจากร้านค้าไอที มีความรู้ความชำนาญทางด้านคอมพิวเตอร์และซอฟแวร์เป็นพื้นฐานเดิมอยู่แล้ว ซึ่งพนักงานขายจะสามารถเข้าใจและเรียนรู้ระบบและกล่องรับทีวีดิจิตอลได้รวดเร็วและอย่างดี รวมทั้งยังมีความรู้ในเรื่องการบำรุงรักษา บริษัทฯจึงเชื่อว่าร้านค้าไอทีและไอทีซีตี้จะมีศักยภาพในการจำหน่ายและ บริการหลังการขายกล่องรับ ทีวีดิจิตอลได้เป็นอย่างดี

"บริษัทขยายช่องทางจัดจำหน่ายกล่องทีวีดิจิตอลผ่าน 2 พันธมิตร คือ เอสวีโอเอ ที่มีตัวแทนจำหน่ายร้านค้าไอที กว่า 1 พัแห่ง และไอทีซิตี้ ที่มีทั้งหมด 79 สาขา ครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อจำหน่ายและรองรับการแจกคูปองส่วนลดกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลของ กสทช. ให้ประชาชนสามารถหาซื้อได้สะดวกพร้อมรับคำปรึกษาในการติดตั้งและการใช้งานจากพนักงานที่มีความรู้ และเป็นศูนย์บริการ เพื่อเป็นการให้บริการหลังการขาย การรับประกันสินค้า การซ่อมเครื่องที่ชำรุด การเปลี่ยนเครื่อง และการปรับปรุงซอฟแวร์ ส่งผลให้ผู้ซื้อมีความมั่นใจในคุณภาพของสินค้าและบริการ"นายประพัฒน์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมั่นใจว่าในปีนี้รายได้จากธุรกิจเดิมจะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ 15-20% จากปีก่อนที่มีรายได้ราว 744 ล้านบาท แม้ว่าจะยังไม่นับรวมรายได้จากธุรกิจจำหน่ายกล่อง Set top box ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ เนื่องจากช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาแนวโน้มของรายได้ยังเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ขณะที่ครึ่งปีหลังยังเติบโตได้ดี เนื่องจากโดยปกติแล้วในช่วงครึ่งปีหลังธุรกิจโครงข่ายที่เป็นธุรกิจเดิมจะเติบโตได้มากกว่าช่วงครึ่งปีแรก

นอกจากนี้ บริษัทฯยังมีงานอยู่ในมือ (Backlog) ราว 200 ล้านบาทที่จะรับรู้เป็นรายได้ทั้งหมดในช่วงครึ่งปีหลังด้วย

นายประพัฒน์ กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มอัตรากำไรสุทธิปีนี้ให้สูงกว่า 8% จากปีก่อนที่อยู่ในระดับ 8% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นตามยอดขายที่ปรับตัวสูงขึ้น

"เรายังตั้งเป้าที่จะเพิ่มอัตรากำไรสุทธิให้สูงกว่าปีก่อน โดยจะเป็นการเติบโตจากยอดขายที่ปรับตัวสูงขึ้น เพราะปัจจุบันบริษัทฯมีต้นทุนที่คงที่ หากยอดขายเพิ่มขึ้นก็จะส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิปรับตัวสูงขึ้นไปด้วย"นายประพัฒน์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ