บลจ.กรุงไทย ออก 3 กองทุนตราสารหนี้ คาดให้ผลตอบแทน 2.35-2.60%

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 5, 2014 12:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางชวินดา หาญรัตกูล กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.กรุงไทย เปิดเผยว่า สัปดาห์นี้บริษัทเปิดจำหน่ายกองทุนประเภทกำหนดอายุโครงการ จำนวน 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงไทยธนทรัพย์ บี 122 ( KTSUPB122 ) เสนอขายวันที่ 6-13 สิงหาคม 2557 อายุ 6 เดือน มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท

กองทุนดังกล่าวเน้นลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ ประมาณ 75%ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ประกอบด้วย เงินฝาก Bank of China , เงินฝาก China Construction Bank, MTN ออกโดย Banco BTG Pactual S.A , MTN ออกโดย Banco ABC ( Brasil ) ส่วนที่เหลือลงทุนตราสารหนี้ในประเทศ ประเภท หุ้นกู้ ตั๋วแลกเงินสถาบันการเงิน บริษัทเอกชน ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 2.60% ต่อปี

ส่วนอีก 2 กองทุน เป็นการเปิดจำหน่ายรอบใหม่(Roll Over)กองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ทอินเวส 3 เดือน 2 (KTSIV3M2) อายุ 3 เดือน เสนอขายถึงวันที่ 8 สิงหาคม 2557 ลงทุนตราสารหนี้ของภาคเอกชน 82% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนในเงินฝากธนาคารออมสิน ผลตอบแทนประมาณ 2.35% ต่อปี

และกองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ทอินเวส 6 เดือน 5(KTSIV6M5)เสนอขายวันที่ 7-15 สิงหาคม 2557 อายุ 6 เดือน ลงทุนตราสารหนี้ภาคเอกชน 85% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนเงินฝากธนาคารออมสิน ผลตอบแทนประมาณ 2.40% ต่อปี

สำหรับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยโดยรวมปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในช่วงอายุ 3-8 ปี จากแรงขายของนักลงทุนในประเทศ เพื่อปรับพอร์ต หลังจากการที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)เห็นชอบกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งระยะเวลา 8 ปี วงเงินลงทุน 2.4 ล้านล้านบาท การชะลอการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ และเงินบาทที่อ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วโดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตร อายุ 2 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3 basis point (bps.) มาอยู่ที่ 2.39% ต่อปี อายุ 5 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4 bps.มาอยู่ที่ 3.12% ต่อปี อายุ 8 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1 bps.มาอยู่ที่ 3.51% ต่อปี และอายุ 10 ปี อยู่ที่ 3.64% ต่อปี

ด้านเศรษฐกิจในประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจเดือน มิ.ย. โดยรวมแล้วส่งสัญญาณอ่อนแอต่อเนื่อง การบริโภค-การลงทุนภาคเอกชนหดตัว ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวปรับลดลงถึง 14.1%MoM ซึ่งเป็นผลกระทบจากเคอร์ฟิวซึ่งมีผลบังคับใช้ในขณะนั้น ถูกยกเลิกในช่วงปลายมิถุนายน ฝ่ายวิจัยของบลจ.กรุงไทย เชื่อว่าทิศทางอุปสงค์ก็น่าจะมีแนวโน้มดีขึ้นในเดือนถัดๆ ไปจากความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นต่อการดำเนินงานของ คสช. ตามโรดแมพที่ได้ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ การแต่งตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติจะนำมาสู่การเลือกนายกฯ มาบริหารประเทศ และผลักดันโครงการลงทุน 2.4 ล้านล้านบาทให้เป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจในระยะยาว

อย่างไรก็ตาม การส่งออกที่ยังคงไม่ดี และระดับสินค้าคงคลังที่ยังคงอยู่ในระดับสูงน่าจะเป็นปัจจัยฉุดรั้งที่สำคัญในช่วงถัดไป ทำให้ในช่วงที่ผ่านมาสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้มีการปรับประมาณการเติบโตในปีนี้ลงเหลือ 2.0% จาก 2.6% ขณะที่บลจ.กรุงไทยยังคงมองการเติบโตเพียง 1.1% เท่านั้นในปีนี้ แต่ในปีหน้ามองการเติบโตสูงในระดับกว่า 5%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ