TK เผยได้ไฟเขียวตั้งบริษัทในกัมพูชา พร้อมเดินหน้าบุกตลาด AEC

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday August 14, 2014 11:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายประพล พรประภา กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บมจ. ฐิติกร (TK) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 57 บริษัทได้รับอนุญาตจัดตั้งบริษัท ซัวสดัย ไฟแนนซ์ (SUOSDEY FINANCE PLC.) จากธนาคารแห่งชาติกัมพูชา เพื่อประกอบธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์และรถยนต์ในประเทศกัมพูชา ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนการขยายธุรกิจรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC)

ส่วนการทำธุรกิจในประเทศไทยนั้น TK เชื่อมั่นว่าเมื่อมีรัฐบาลใหม่จัดตั้งเรียบร้อยแล้ว เศรษฐกิจของไทยน่าจะค่อย ๆ ฟื้นตัวและน่าจะฟื้นตัวได้อย่างจริงจังในปีหน้าเป็นต้นไป ดังนั้น TK จึงยังคงเดินหน้าแผนการขยายงานต่อไปโดยยังคงรับพนักงานงานเพิ่มอีก 200 ตำแหน่ง โดยปัจจุบันบริษัทมี 90 สาขา ใน 53 จังหวัดทั่วประเทศ

นายประพล กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวติดต่อกันถึง 5 ไตรมาส ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของประชาชน จึงทำให้การผ่อนชำระของลูกค้าจำนวนหนึ่งได้รับผลกระทบ ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการเก็บเงินเพิ่มสูงขึ้น TK จึงเพิ่มความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ทำให้ยอดปล่อยสินเชื่อลดลงตามภาวะของยอดขายรถจักรยานยนต์

สำหรับครึ่งปีแรกปีนี้ ลูกหนี้เช่าซื้อสุทธิของบริษัทฯ รวม 8,596.8 ล้านบาท ลดลง 5.1 % จาก 9,058.8 ล้านบาท ในขณะที่ตลาดรถจักรยานยนต์ในครึ่งปีแรกมียอดขาย 877,000 คัน หดตัวถึง 20.1 % จาก 1,097,338 คัน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

นางสาวปฐมา พรประภา กรรมการผู้จัดการ TK กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมาประเทศประสบปัญหาวิกฤติการณ์ทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบกับทุกภาคส่วน โดยเฉพาะการบริโภคภายในประเทศ ทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวต่อเนื่องมา 5 ไตรมาสซ้อน ตั้งแต่ไตรมาส 2 ในปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์และจักรยานยนต์มียอดขายรายเดือนหดตัวต่อเนื่อง 14 เดือนซ้อน TK ได้เริ่มเร่งตัดหนี้สูญมาตั้งแต่ไตรมาส 2 ในปีที่ผ่านมาต่อเนื่อง

"ยอมรับว่าลูกค้าหลายกลุ่มประสบปัญหาสภาพคล่อง เช่น ชาวนา และเกษตรกรที่เพาะปลูกยางพารา มันสำปะหลัง ข้าวโพด ปาล์มน้ำมัน ได้รับผลกระทบจากราคาที่ลดลง อีกทั้ง พนักงานโรงงานและโรงแรมได้รับผลกระทบจากยอดส่งออกที่ลดลงและนักท่องเที่ยวที่ปรับเปลี่ยนแผนการเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย"นางสาวปฐมา กล่าว

ทั้งนี้ TK ตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญและตัดหนี้สูญในปีที่ผ่านมามากกว่า 1,200 ล้านบาท อีกทั้งได้ตั้งหนี้สงสัยจะสูญและตัดหนี้สูญ 699.1 ล้านบาทในช่วงครึ่งปีนี้ โดยในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ มีการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สูญอีก 366.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.4 % จาก 268.4 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ทำให้ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญในไตรมาส 2 จำนวน 630.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.2% จาก 572.2 ล้านบาท จากไตรมาสที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ภายหลังการจัดตั้งรัฐบาลใหม่เป็นที่เรียบร้อย ภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยจะสามารถเดินหน้าต่อไปได้อย่างมีเสถียรภาพ ซึ่งเชื่อมั่นว่ารัฐบาลใหม่น่าจะให้ความสำคัญต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติการณ์ทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมา พื้นฐานทางเศรษฐกิจของไทยยังคงแข็งแกร่ง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ