ไทย-มาเลย์-สิงคโปร์รับการเสนอขายกองทุนรวมให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไประหว่างกัน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday August 25, 2014 15:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)ไทย ร่วมกับหน่วยงานกำกับตลาดทุนมาเลเซีย และสิงคโปร์ ประกาศใช้แนวทางการยอมรับมาตรฐานหน่วยลงทุนซึ่งกันและกันเพื่อเปิดให้มีการเสนอขายกองทุนรวมข้ามพรมแดนภายใต้ ASEAN Collective Investment Schemes Framework (ASEAN CIS Framework) พร้อมรองรับการอนุญาตการเสนอขายกองทุนรวมแก่ผู้ลงทุนทั่วไประหว่างสามประเทศตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม 2557 เป็นต้นไป

นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า การประกาศใช้ ASEAN CIS Framework เป็นอีกก้าวของความสำเร็จที่หน่วยงานกำกับตลาดทุนทั้งสามประเทศได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจเมื่อเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา เพื่อเปิดให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ในประเทศภาคีสามารถนำหน่วยลงทุนของกองทุนรวมที่ได้รับการอนุญาตแล้วในประเทศของตนไปเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไปในประเทศภาคีได้ภายใต้กระบวนการอนุญาตที่สะดวกและรวดเร็วขึ้น ต่อยอดจากเดิมที่อนุญาตเฉพาะการเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่

นอกจากนี้ ยังได้มีการจัดทำคู่มือเพื่อเป็นแนวทางให้แก่ บลจ. เกี่ยวกับการบริหารจัดการในด้านต่างๆ อาทิ ขั้นตอนการขออนุญาต การแต่งตั้งผู้จัดจำหน่ายหน่วยลงทุนในประเทศที่ไปเสนอขาย โดยรายละเอียดของคู่มือเผยแพร่เป็นการทั่วไปที่เว็บไซต์ http://www.theacmf.org/ACMF/upload/asean_cis_handbook.pdf

ความร่วมมือที่เกิดขึ้นนี้จะสร้างโอกาสให้แก่ภาคธุรกิจ รวมทั้งเพิ่มโอกาสและทางเลือกสำหรับผู้ลงทุนมากยิ่งขึ้น นับเป็นผลสำเร็จที่เป็นรูปธรรมของความร่วมมือของหน่วยงานกำกับตลาดทุนในอาเซียนในการสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ตลาดทุนในภูมิภาคและบรรลุเป้าหมายการรวมตัวเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558

ดาตุ๊ก รานจิต อาจิต ซิงห์ ประธานหน่วยงานกำกับตลาดทุนมาเลเซีย กล่าวว่า “นับเป็นอีกก้าวสู่การรวมตลาดทุนอาเซียนเพื่อบรรลุเป้าหมายการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนภายในปี 2558 อาเซียนเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่มีอัตราเงินออมสูงสุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งสามารถนำกลับมาลงทุนในภูมิภาคเพื่อสร้างผลตอบแทนและพัฒนาการเติบโตให้แก่ภูมิภาคได้ต่อไป ดังนั้นความร่วมมือ ASEAN CIS Framework จะช่วยให้ผู้ลงทุนและผู้ประกอบการด้านกองทุนรวมได้รับประโยชน์จากภูมิภาคซึ่งมีผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศรวมกันเกินกว่า 2.4 ล้านล้าน ดอลลาร์สหรัฐ

ด้านนายลี บูน เงียพ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ หน่วยงานกำกับตลาดเงินและตลาดทุน สิงคโปร์ กล่าวว่า ความร่วมมือนี้จะทำให้ผู้ลงทุนทั่วไปในอาเซียนมีทางเลือกในการลงทุนในกองทุนรวมที่หลากหลายมากขึ้น ในขณะเดียวกัน ยังเป็นการเปิดลู่ทางธุรกิจให้ผู้ประกอบการด้านกองทุนรวมได้เข้าถึงผู้ลงทุนทั่วไปในกลุ่มประเทศอาเซียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่าประเทศสมาชิกอื่นๆ ในอาเซียนจะเข้าร่วมโครงการนี้เพิ่มขึ้นในปีต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ