(เพิ่มเติม) GUNKUL ตั้งเป้าปี 58 รายได้โตกระโดดกว่า 4 พันลบ.ลั่นพร้อมชิงงานพลังงานทดแทน

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday August 28, 2014 12:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย กรรมการผู้จัดการ บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง(GUNKUL)กล่าวว่า ปี 58 จะเป็นปีที่ดีที่สุดของ GUNKUL คาดว่ารายได้จะเติบโตก้าวกระโดดแตะระดับ 4,000 ล้านบาท โดยรายได้หลักจะมาจากงานรับเหมาก่อสร้างโรงไฟฟ้า(EPC)ที่มองว่าจะมีมูลค่าตลาดรวมราว 4 หมื่นล้านบาท เนื่องจากตลาดพลังงานทดแทนจะเติบโตอย่างมากจากแรงสนับสนุนของภาครัฐ ซึ่งบริษัทมีความพร้อมทั้งในด้านการลงทุน แหล่งเงินทุน และกระแสเงินสด รวมถึงมีประสิทธิภาพในการแข่งขันมากที่สุด
"เราคงไม่มองปีนี้แล้วเพราะทุกอย่างก็เป็นไปตามเป้าหมาย เรามองว่าแนวโน้มปี 58 ตลาดพลังงานทดแทนจะคึกคัดอย่างมาก มูลค่าตลาดรวมก็ประมาณ 4 หมื่นล้านบาท ซึ่งเราก็ของานจากส่วนนี้ 10%"นายสมบูรณ์ กล่าว

นอกจากนั้น จากโครงการพลังงานทดแทนที่เห็นความชัดเจนมากขึ้นในปี 58 จะส่งผลต่อเนื่องให้ปี 59 กำไรสุทธิของ GUNKUL จะมีเสถียรภาพมากขึ้น หรือคาดว่าจะมีกำไรเพิ่มเป็นปีละ 600-700 ล้านบาท และคาดว่าเมื่อเข้าสู่ปี 61 กำไรจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด รวมทั้งส่งผลต่อสัดส่วนกำไรจากธุรกิจพลังงานทดแทนเพิ่มเพิ่มขึ้น โดยบริษัทฯมองว่าหากสัดส่วนเพิ่มเป็นมากกว่า 50% ก็จะเปลี่ยนธุรกิจหลักมาเป็นพลังงานทดแทน จากปัจจุบันที่เป็นผู้รับเหมา

สำหรับผลประกอบการในปีนี้ บริษัทมั่นใจว่ารายได้จากการดำเนินงานในปีนี้จะเติบโต 50% มาที่ราวะ 3,000 ล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 2,431.51 ล้านบาท ขณะที่กำไรปีนี้จะใกล้เคียงกับปีก่อนที่ทำได้ 882 ล้าบาท จากปัจจุบันมีงานในมือ(Backlog)ราว 1,000 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ปีนี้ได้ราว 80% ขณะที่บริษัทฯเตรียมยื่นการประมูลงานในโครงการก่อสร้างอีกกว่า 2,000-3,000 ล้านบาท หวังได้งานประมาณ 20%

ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าจะมีส่วนร่วมเข้าไปรับเหมาก่อสร้างโรงไฟฟ้าโครงการโซลาร์รูฟชุมชนอย่างน้อย 10% จากทั้งหมดที่ภาครัฐกำหนดให้การสนับสนุนราว 800 เมกกะวัตต์ ส่วนจะเข้าไปเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าเองหรือไม่ ยังอยู่ระหว่างรอความชัดเจนในเรื่องของสัญญาการซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ของกระทรวงพลังงานที่คาดว่าน่าจะเห็นในเดือนก.ย.นี้

ด้านโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมห้วยบง จ.นครราชศรีมา ขนาดกำลังการผลิต 60 เมกกะวัตต์ ขณะนี้บรรลุข้อตกลงกับสถาบันทางการเงินรายใหญ่แล้ว คาดว่าจะมีการเซ็นสัญญางินกู้ได้ในเดือน ต.ค.นี้ โดยจะใช้งบลงทุนราว 4,800 ล้านบาท ซึ่งมาจากเงินกู้ราว 3,500 ล้านบาท กำหนดจ่ายไฟฟ้าเข้าสู่ระบบได้ในเดือน ธ.ค.58 และจะรับรู้รายได้เข้ามาเต็มปีในปี 59 หรือประมาณ 950 ล้านบาทต่อ 60 เมกกะวัตต์ ด้านกำไรสุทธิน่าจะเข้ามาไม่น้อยกว่า 40%

ส่วนโครงการโรงไฟฟ้า Gas Enging ที่เมียนมาร์ ขนาด 25 เมกกะวัตต์ที่บริษัทเข้าไปถือหุ้น 51% นั้น จ่ายไฟฟ้าไปแล้วตั้งแต่ปลายปี 56 โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมแผนดำเนินการเฟสที่ 2 ในปี 58 คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างราว 6 เดือน ขนาดกำลังการผลิต 25 เมกกะวัตต์ ซึ่งบริษัทจะเข้าถือหุ้นในสัดส่วนประมาณ 60%

"ขณะที่พลังงานลม ขนาด 60 เมกกะวัตต์ต้นเดือน ต.ค.นี้จะปิดโปรเจ็คต์ไฟแนนซ์กับแบงก์ได้ และน่าจะจ่ายไฟฟ้าได้ใน ธ.ค.ปีหน้า ส่วนในพม่าก็มีการทำโปรเจกต์ 2 โดยเข้าไปถือหุ้นในสัดส่วน 60% คาดว่าจะใช้เวลาในการก่อสร้าง 6 เดือน ส่งผลให้รายได้ในปี 58 จะแตะ 4,000 ล้านบาท จากปีนี้ที่คาดว่าจะเติบโตได้ราว 3,000 ล้านบาท"นายสมบูรณ์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ