ทรีนิตี้ มอง SET Index ครึ่งแรก ก.ย.แกว่ง Sideways up มีลุ้นทดสอบ 1,580 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday September 3, 2014 14:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บล.ทรีนีตี้ มองภาพรวมตลาดหุ้นไทยในช่วงครึ่งแรกเดือน ก.ย.57 ดัชนีตลาดหลักทรัพย์(SET Index)มีลุ้นทดสอบ 1,580 จุด จากความเชื่อมั่นการจัดงานไทยแลนด์โฟกัสและสภาพคล่องจากพันธบัตรที่ครบอายุกว่า 10,000 ล้านบาทไหลเข้า บวกกับธนาคารกลางยุโรป(ECB)ส่งสัญญาณใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน

ขณะที่ครึ่งเดือนหลังมีปัจจัยเสี่ยงจากคาดธนาคารกลางสหรัฐ(FED)ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และกองทุนประเภททาร์เก็ตฟันด์อาจจะเทขายออกมาเมื่อได้ผลตอบแทนถึงเป้าหมาย

นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวถึงภาพการลงทุนในเดือนนี้ผ่านรายงาน The Big Picture ว่า SET Index ช่วงครึ่งเดือนแรกจะเคลื่อนไหว Sideways up และมีลุ้นขึ้นทดสอบระดับ 1,580 จุด โดยแนะนำให้การถือหุ้นต่อสำหรับนักลงทุนที่มีหุ้นอยู่แล้วเพื่อปล่อยให้กำไรวิ่งไปต่อ (Let profit run) ก่อนเริ่มหาจังหวะขายทำกำไรในช่วงกลางเดือนจากประเด็นความเสี่ยงที่อาจเข้ามาในช่วงครึ่งเดือนหลัง

สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดมีดังนี้ ด้านปัจจัยสนับสนุน ได้แก่ ทิศทางเม็ดเงินลงทุน (Fund flow) ที่มีโอกาสไหลเข้าจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่สูงขึ้นจากการจัดงาน Thailand focus และสภาพคล่องในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้นกว่า 10,000 ล้านบาท จากการครบกำหนดอายุของพันธบัตรออมทรัพย์ ในขณะที่คาดการณ์การประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพรุ่งนี้ (4 ก.ย.57) อาจเริ่มมีการส่งสัญญาณความเป็นไปได้ในการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มขึ้น

ส่วนปัจจัยเสี่ยง ได้แก่ การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในช่วงกลางเดือนนี้ (16-17 ก.ย.57) มีความเป็นไปได้ที่คณะกรรมการอาจมีความเห็นให้มีการขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้น ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริงอาจทำให้ตลาดพันธบัตรสหรัฐฯ มีความผันผวน จนส่งผลให้มีแรงขายทำกำไรในตลาดหุ้นได้ นอกจากนี้อาจมีแรงขายกดดันจากกองทุนที่มีการตั้งเป้าหมายผลกำไรที่ได้ชัดเจนตั้งแต่เริ่มตั้งกองทุน (Trigger fund) ที่บริเวณดัชนี 1,590 – 1,600 จุด ประกอบระดับมูลค่าตลาด Valuation ของ SET Index ที่เริ่มสูงแล้ว

หุ้นที่แนะนำลงทุนในเดือน ก.ย.ได้แก่ กลุ่มเดินเรือที่ได้อานิสงส์จากค่าระวางเรือที่ปรับขึ้นต่อเนื่อง ได้แก่ TTA, PSL, RCL, กลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็กที่มีแนวโน้มเติบโตดี ได้แก่ TMB, LHBANK, กลุ่มโรงไฟฟ้าและพลังงานทางเลือกที่ยังคงมีราคาถูกในเชิง P/BV ที่ต่ำ ได้แก่ CKP, IFEC, AKR, และกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานและอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ BMCL, BLAND


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ