แหล่งข่าวจาก บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล(JAS)กล่าวกับ "อินโฟเควสท์"ว่า หลังจากศาลยกคำร้องคำขอคุ้มครองชั่วคราวกรณีที่ บมจ.ทีทีแอนด์ที (TT&T) ฟ้อง บริษัท อคิวเม้นท์ จำกัด(ACU) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ JAS ให้โอนหุ้นของ บมจ.ทริปเปิลที บรอดแบนด์ (TTTBB) ให้กับผู้ถือหุ้น TT&T วานนี้ บริษัทยังมีความมั่นใจว่ามีสิทธิในสินทรัพย์ของ TTTBB ทั้ง 100% ในการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานที่บริษัทได้ดำเนินเรื่องขออนุญาตต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)ไปก่อนมีการฟ้องร้องเกิดขึ้น
"หลังจากศาลยกคำร้องแล้วเราก็มั่นใจมากขึ้นในการเดินหน้าจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน เพราะแสดงถึงเรามีสิทธิในสินทรัพย์ของ TTTBB และการรับรู้รายได้ก็ยังรับรู้ได้เหมือนเดิม แต่คดีความยังคงต้องใช้เวลาในการพิจารณาราวๆอีก 10 ปีกว่าจะรู้ผล แต่เรามั่นใจในเรื่องของคดีความ เพราะทางฝ่ายกฏหมายของเรามองว่า MOU สิ้นสุดไปนานแล้ว แต่ไม่มีผู้ถือหุ้นของ TT&T มาขอซื้อหุ้นคืน ก็คงต้องรอว่าในแง่ของทางด้านศาลจะมองอย่างไร แต่ตอนนี้เราก็มั่นใจมากขึ้นมาในระดับหนึ่ง"แหล่งข่าวจาก JAS กล่าว
อย่างไรก็ตาม จากความกังวลของนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ว่า ก.ล.ต.อาจไม่อนุญาตให้นำสินทรัพย์ของ TTTBB มาจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานนั้น ยังต้องรอรับฟังความเห็นของ ก.ล.ต.ก่อนว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งบริษัทเชื่อมั่นว่าสามารถจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานได้ เพราะศาลฯได้ยกคำร้องการคุ้มครองชั่วคราวไปแล้ว ทำให้บริษัทมีสิทธิในสินทรัพย์ของ TTTBB เต็มที่
"ตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่า ก.ล.ต.จะอนุญาตให้นำสินทรัพย์ของ TTTBB ที่อยู่ในคดีความจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานได้หรือไม่ เพราะศาลเพิ่งยกคำร้องไป ต้องรอทาง ก.ล.ต.ว่าจะให้ความเห็นกับเราว่าอย่างไร เราก็อยากให้ตั้งได้เร็วที่สุด กระบวนการจัดตั้งก็อยู่กับทาง ก.ล.ต.แล้ว เราดำเนินเรื่องก่อนจะฟ้องร้อง เอกสารก็ส่งให้ทาง ก.ล.ต.ตามระเบียบทุกอย่าง แต่หลังจากนี้เราก็ดูท่าทีจากทาง ก.ล.ต.จะมีท่าทีออกมาอย่างไร เขาจะมีประเด็นอะไรถามเราไหม ซึ่งเราก็พร้อมจะตอบและชี้แจงกับทาง ก.ล.ต."แหล่งข่าวจาก JAS กล่าว
ทั้งนี้ คดีความดังกล่าวยังคงต้องรอการพิจารณาตัดสินอีกราว 10 ปี กว่าจะทราบผลของคดีในท้ายที่สุด แต่บริษัทยังเดินหน้าในการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานต่อไปจนกว่าจะสำเร็จ และการรับรู้รายได้จาก TTTBB ยังเป็นไปตามปกติเช่นเดิม