นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.เอเชียพลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะผันผวนในทิศทางที่อ่อนตัวลง เนื่องจากตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ก็อยู่ในแดนลบ ขณะที่กำลังรอผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(FOMC)ในวันที่ 16-17 ก.ย.นี้ว่าจะมีทิศทางของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯเร็ว หรือมาก-น้อยแค่ไหน
สำหรับบ้านเราการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ในสัปดาห์นี้คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมก่อน แต่อย่างไรก็ดี ต้องติดตามการปรับโครงสร้างภาษีในประเทศ โดยเฉพาะสิทธิพิเศษการหัดลดหย่อนภาษีสำหรับกองทุน LTF ที่จะสิ้นสุดในปลายปี 59 ว่าจะมีการดำเนินการอย่างไรต่อไป
พร้อมให้แนวรับ 1,570 จุด แนวต้าน 1,590 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(12 ก.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,987.51 จุด ลดลง 61.49 จุด (-0.36%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,567.60 จุด ลดลง 24.21 จุด (-0.53%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,985.54 จุด ลดลง 11.91 จุด (-0.60%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 1.76 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 184.94 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 16.77 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 2.83 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 7.22 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 2.50 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(12 ก.ย.)1,581.36 จุด เพิ่มขึ้น 0.49 จุด(+0.03%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 781.21 ล้านบาท เมื่อวันที่ 12 ก.ย.57
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(12 ก.ย.)ที่ 92.27 ดอลลาร์/บาร์เรล
ลดลง 56 เซนต์
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(12 ก.ย.)ที่ 6.9 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิดเช้านี้ที่ 32.26/27 อ่อนค่าตามภูมิภาคจากดอลลาร์แข็งค่า
- ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนมองตลาดหุ้นไทยยังเป็นขาขึ้น เหตุหุ้นใหญ่ยังไปไม่ไกล เตือนระวังตลาดจะผันผวนหนัก เหตุแรงเก็งกำไรสูง โดยเฉพาะหุ้นขนาดเล็กและไอพีโอ แนะเกาะติดแนวโน้มดอกเบี้ยสหรัฐสัปดาห์นี้ "ทิสโก้"แนะขายลดพอร์ต-ถือเงินสดแทน
- แหล่งข่าวกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า ในสัปดาห์นี้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.)จะหารือกับสถาบันการเงิน 13 แห่งเพื่อวางแผนการกู้เงินตามแผนบริหารหนี้สาธารณะปีงบประมาณ 2558 วงเงิน 1.25 ล้านล้านบาท ซึ่งได้ผ่านความเห็นชอบคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แล้ว เพื่อให้การกู้เงินดังกล่าวไม่กระจุกตัวจนส่งผลกระทบกับตลาดเงิน
- "แบงก์ชาติ"เผยทุนไทยแห่ตั้งกิจการใน "ฮ่องกง" หวังใช้เป็นฐานรุกตลาดจีน ชี้ 3 ปีครึ่ง เม็ดเงินลงทุนกว่า 1.19 แสนล้าน สูงอันดับหนึ่งเมื่อเทียบรายประเทศ โดยธุรกิจ ค้าปลีก ค้าส่ง โฮลดิ้ง คอมพานี นิยมไปลงทุนมากสุด ขณะที่เงินลงทุน ในหลักทรัพย์ ช่วง 1-2 ปี พุ่งต่อเนื่อง ด้าน "บีทีเอส" เล็งประมูลงานรถไฟฟ้าในจีน
- แบงก์คาด กนง.มีมติคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 2% ในการประชุมวันพุธนี้ ระบุแม้เศรษฐกิจผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว แต่ยังเปราะบางจากส่งออก-ท่องเที่ยวยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ จับตาปีหน้าทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น
- แบงก์ชาติมั่นใจไม่มีสัญญาณภาวะเศรษฐกิจไทยฝืด เพราะการสำรวจความเชื่อมั่นทุกรอบและครั้งล่าสุด สะท้อนความเชื่อมั่นดีขึ้น ทำให้แนวโน้มการบริโภคปรับตัวดี มองภาพรวมเศรษฐกิจไทยลักษณะวีเชฟ ผ่านจุดต่ำสุด มาแล้ว คาดเริ่มเห็นเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวชัดเจนในไตรมาส 3 ปีนี้ ขณะที่ดัชนีการอุปโภคบริโภคเอกชนเป็นบวกครั้งแรกรอบ 11 เดือน
- สำนักงานสถิติแห่งชาติ เปิดเผยจำนวนผู้ว่างงานในเดือน ส.ค.2557 มีทั้งสิ้น 2.87 แสนคน คิดเป็นอัตราการว่างงาน0.7% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จำนวนผู้ว่างงานลดลง 2.8 หมื่นคนจาก 3.15 แสนคน เป็น 2.87 แสนคนและเมื่อเปรียบเทียบกับเดือน ก.ค.2557 จำนวนผู้ว่างงานลดลง 9.2 หมื่นคน
*หุ้นเด่นวันนี้
- PTT,BANPU,AGE(เคทีบี)"เก็งกำไร"เห็นว่า รมว.พลังงาน มีความรู้ความเข้าใจเป็นอย่างดีต่อการปรับโครงสร้างพลังงานไทย โดยเฉพาะหลักการภาษีที่อยู่บนหลักการเท่ากันของพลังงานแต่ละประเภทเพื่อความเป็นธรรมกับผู้ใช้ ทำให้จะต้องปรับเพิ่มภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล และการให้ความสำคัญต่อมูลค่าของ LPG รวมทั้งการใช้ถ่านหินทดแทนก๊าซธรรมชาติมากขึ้นในระยะยาว พร้อมให้ราคาเป้าหมายเท่ากับ 420, 35.25(ต้าน) และ 2.84(ต้าน) บาท ตามลำดับ
- AAV(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 5.20 บาท คาดว่าหุ้นกลุ่มสายการบินและท่องเที่ยวจะปรับตัวได้ดีกว่าตลาดในสัปดาห์นี้จากแรงเก็งกำไยกเลิกกฎอัยการศึกพื้นที่ท่องเที่ยวที่คาดว่าคสช.อนุมัติภายในเดือนนี้ พร้อมคาดผลประกอบการ 3Q57 พลิกเป็นกำไร จาก 2Q57 ขาดทุนสุทธิหลังจำนวนผู้โดยสารเริ่มฟื้นตัวทั้งในประเทศ-ต่างประเทศหลังการเมืองคลายตัว และอานิสงส์ยกเว้นค่าวีซ่านักท่องเที่ยวจีนและไต้หวัน คาดกำไรสุทธิปี 58 ที่ 1,671 ล้านบาท +240% yoy โตสูงสุดในกลุ่ม
- KTB(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 27 บาท คงมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มธนาคารรับประโยชน์โดยตรงการฟื้นตัวเศรษฐกิจและส่งผลให้สินเชื่อขยายตัวใน 2H57 และเร่งตัวขึ้นในปี 58 และการปล่อยกู้ให้กับโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐฯ พร้อมคาดกำไรสุทธิ 3Q57 ขยายตัว qoq จากตั้งสำรองลดลง และสินเชื่อขยายตัว qoq ขณะที่ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยคาดว่าจะเริ่มปรับตัวดีขึ้นใน 4Q57 และปี 58 จากทิศทางดอกเบี้ยที่คาดขึ้นในปีหน้า และกำไรสุทธิปี 58 เติบโต +12.9% yoy เป็น 38,054 ล้านบาท และมี Valuation ที่ยังไม่สูงมาก