นายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้จะสามารถรักษาฐานไว้ได้แถว 1,580 จุด และจะแกว่งตัวอยู่ในกรอบ 1,580-1,600 จุด บวก/ลบประมาณ 10 จุด โดยปัจจัยภายในประเทศมีแรงหนุนจากเม็ดเงินทริกเกอร์ฟันด์กองใหม่ แนะเลือกลงทุนรายกลุ่ม เช่น กลุ่มมีเดียการได้รับประโยชน์ลดค่าธรรมเนียมทีวีดิจิตอลและเลื่อนจ่ายค่าใบอนุญาต ส่วนงบการลงทุนภาครัฐเริ่มออกมาพูดกันมากขึ้นเป็นบวกต่อกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ดังนั้น ช่วงนี้ให้เน้นหุ้นกลุ่ม Domestic Play ไปก่อน
ส่วนปัจจัยที่จะเป็นความเสี่ยงเล็กน้อยเป็นไปตามภาวะตลาดโลก เรื่องตัวเลขเศรษฐกิจยุโรปที่กลับมาชะลอตัวอีกครั้ง แต่ในมุมมองของ บล.โนมูระฯ มองว่าท้ายที่สุดแล้วธนาคารกลางยุโรป(ECB)ที่จะมีการประชุมช่วงต้นเดือนหน้าจะยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายต่อไป
พร้อมให้กรอบการเคลื่อนไหววันนี้ แนวรับ 1,580 จุด แนวต้าน 1,600 จุด
ขณะที่บทวิคราะห์ บล.เคเคเทรด คาดว่า วันนี้ดัชนีคงแกว่งตัวออกด้านข้างในทิศทางค่อยขยับขึ้น โดยมีกรอบเคลื่อนไหว 1585-1598 จุด แม้จะปรับลงก่อนในช่วงเช้าตามตลาดภูมิภาคที่ส่วนใหญ่เปิดลบหลังดัชนีดาวโจนส์ปรับลงเป็นวันที่สองอีกกว่า 116 จุดเมื่อคืนนี้ แต่จิตวิทยาการลงทุนไม่เสีย เพราะแม้ดัชนีดาวโจนส์ปรับลงแรงวันก่อนหน้าแต่ SET สามารถเปิดทำจุดสูงสุดใหม่ได้สวนทางตลาดหุ้นในภูมิภาค และการประชุมครม. 1-2 สัปดาห์นี้ คาดจะมีการผลักออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ขณะที่นักลงทุนต่างชาติและสถาบันที่ซื้อสุทธิพร้อมกันในช่วงสามวันนี้ และ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปียังคงปรับลดลงต่อเนื่องมาที่ 2.53% บ่งบอกถึงสภาพคล่องส่วนเกินยังดำรงอยู่
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(23 ก.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,055.87 จุด ลดลง 116.81 จุด (-0.68%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,508.69 จุด ลดลง 19.00 จุด (-0.42%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,982.77 จุด ลดลง 11.52 จุด(-0.58%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 7.49 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 48.09 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 13.10 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 4.16 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 6.40 จุด,ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.53 จุด และดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 100.34 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(23 ก.ย.)1,590.13 จุด เพิ่มขึ้น 0.62 จุด(+0.04)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 610.57 ล้านบาท เมื่อวันที่ 23 ก.ย.57
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(23 ก.ย.)ที่ 91.56 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 69 เซนต์
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(23 ก.ย.)ที่ 5.23 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.24/26 คาดแกว่งแคบไร้ปัจจัยใหม่ กังวลสถานการณ์ในซีเรีย
- ครม.ไฟเขียวมาตรการเร่งเบิกจ่ายลงทุนภาครัฐ คาดไตรมาสสุดท้ายปีนี้ เบิกงบ 2.6 แสนล้านบาท พร้อมไฟเขียวงบลงทุนรัฐวิสาหกิจ 1.3 ล้านล้าน เพิ่มจากปีก่อน 14% สั่งรายงานทุก 3 เดือน ขณะสคร.ทำบัญชีรายชื่อโครงการ ปรับเกณฑ์ดึงเอกชน ร่วมลงทุนเพิ่ม
- ผู้เชี่ยวชาญต่อต้านทุจริตหนุนสมาชิกเอเปคจัดการคดีทุจริตฟอกเงินให้มีประสิทธิภาพ พัฒนาระบบกฎหมายบังคับคดีอาญาข้ามชาติให้เป็นสากล การปรับปรุงระบบดูแลบริหารทรัพย์ยึดมา พร้อมตั้งหน่วยงานดูแล บริหารทรัพย์จากการทำผิด ควบคู่กับการสืบค้นข้อมูลให้แน่นหนาก่อนโยงบุคคลที่ 3
- ครม.ไฟเขียวแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ"ประยุทธ์" ย้ำทุกขั้นตอนมีความเป็นธรรม ยันพิจารณาจากความรู้ความสามารถ "อรรชกา" ขึ้นแท่นปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ดัน "นคร ศิลปอาชา" นั่งปลัดกระทรวงแรงงาน พาณิชย์ดันผู้ตรวจราชการนั่งอธิบดีพรึบ "สมหมาย"แต่งตั้งโยกย้ายคลังไม่มีสี-ไม่ข้ามขั้น พร้อมต่ออายุการทำงาน "เลขาธิการสศช.-อำพน" ออกไปอีก 1 ปี
- "อินทัช"เปิดธุรกิจใหม่ร่วมยักษ์คอนเทนท์ "กันตนา กรุ๊ป" รุกธุรกิจผลิตรายการป้อนทีวีดิจิทัล หวังผนึกจุดแข็งกันตนาด้านคอนเทนท์ กับความเชี่ยวชาญเทคโลยีจากอินทัช เบื้องต้นลงขันฝ่ายละ 20 ล้าน คาดเริ่มออนแอร์รายการใหม่ปี 58 ด้านกันตนา แจงประเดิมซีรีส์ร่วมอินทัช"กอสสิบ เกิร์ลส"รับชมได้ทุกแพลตฟอร์ม-อินเตอร์ แอคทีฟ
*หุ้นเด่นวันนี้
- INTUCH(เมย์แบงก์กิมเอ็ง)"ทยอยสะสม"เป้า 114.00 บาท หากพิจารณาเทียบกับราคาปิดสิ้น 2Q57 ราคาหุ้น INTUCH ยัง -3.1% QTD ดังนั้น คาดว่าจะเป็นเป้าหมายในการทำ Window Dressing ในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลในเกณฑ์ดี โดยคาดการณ์เงินปันผล 2H57 หุ้นละ 2.30 บาทคิดเป็น Dividend Yield ที่ 3.2% และปี 2558 หุ้นละ 5.29 บาท คิดเป็น Dividend Yield 7.4%
- SST (เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 41 บาท ธุรกิจยังมีแนวโน้มเติบโตจากการขยายสาขาเชิงรุกทั้งในไทยและในต่างประเทศที่มีกำลังซื้อสูง การประหยัดจากขนาดสนับสนุน Margin สูงขึ้น และภาคการบริโภคในประเทศมีการขยายตัวดีขึ้นราว 3.5% YoY ทั้งนี้เราประเมินมูลค่าเหมาะสมด้วยวิธี Discounted Cash Flow ได้มูลค่าเหมาะสมเป็น 41 บาท เทียบเท่า 42xP/E’58 แม้แพงเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ 28 เท่า แต่อัตราส่วน Price to Sales เท่ากับ 2.2 เท่า ต่ำกว่ากลุ่มอาหารเครือข่ายที่มีค่าเฉลี่ยราว 2.5 เท่า และมีการเติบโตสูงต่อเนื่องตั้งแต่ปี 58 เป็นต้นไป นอกจากนี้ยังมีโอกาสจ่ายหุ้นปันผล
- PTTEP (ไอร่า)"ซื้อลงทุน"เป้า 200 บาท แม้ราคาน้ำมันลดลงแต่ปริมาณการผลิตยังเพิ่มขึ้นโดดเด่น ยังคงคาดหวังการเติบโตปี 57 ปริมาณผลิตเพิ่มขึ้นจาก Natuna Sea A และแหล่ง Hess Corporation ประกอบกับ จะรับรู้การส่งก๊าซจากแหล่ง Zawtika เต็มที่ในช่วง 4Q/57 คาดปริมาณการผลิตจะเพิ่มขึ้น 11% และ 6.8% ในปี 57 และ 58 ตามลำดับ ในขณะที่ผลการดำเนินงานยังคงแข็งแกร่ง ราคาปัจจุบันมี Upside 23%, อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 3.9%