ASP มองเป้าดัชนี SET ปี 58 ที่ 1,760 จุด/ เล็งตลาดปรับฐานในช่วง Q4/57

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday September 26, 2014 16:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.เอเชีย พลัส กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยในปี 2558 คาดว่าจะขึ้นไปถึง 1,760 จุด ซึ่งเป็นระดับที่ทำสถิติใหม่ โดยคาดว่าอัตราการเติบโตกำไรของบริษัทจดทะเบียนจะเติบโต 12.5% จากปีนี้(2557) ปัจจัยที่จะมาสนับสนุนหลักในปีหน้า คือ นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐฯ โดยเฉพาะการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ที่จะช่วยให้การบริโภคภายในประเทศกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง

สำหรับปีนี้(2557)มองว่า การซื้อขายหุ้นไทยไม่ควรจะเกินระดับ 1,570 จุด หรือที่ระดับ P/E ไม่เกิน 16 เท่า ซึ่งในช่วงไตรมาส 4/57 นี้คาดว่าดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสปรับฐานลงมาได้ เนื่องจากปัจจุบันดัชนีฯปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ระดับ P/E เกิน 16 เท่าไปแล้ว

ในส่วนของการไหลออกของเงินทุนต่างชาตินั้น เชื่อว่าจะไม่กระทบต่อตลาดหุ้นไทย เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติได้ขายหุ้นไทยออกไปค่อนข้างมากแล้ว ซึ่งปัจจุบันสัดส่วนนักลงทุนต่างชาติที่ถือหุ้นไทยโดยตรงลดลงมาอยู่ที่ 26% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีสัดส่วนอยู่ 28% ขณะที่การถือหุ้นผ่าน NVDR อยู่ที่ 6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 8% ซึ่งการถือครองหุ้นของต่างชาติที่เหลืออยู่จะเป็นการลงทุนระยะยาวโดยส่วนใหญ่

นายเทิดศักดิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับการต่ออายุสิทธิประโยชน์ทางภาษีของกองทุน LTF มองว่าหากไม่มีการต่ออายุสิทธิประโยชน์ทางภาษีจะส่งผลให้เม็ดเงินลงทุนไหลออกไปในกองทุนระยะสั้นและสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น จากปัจจุบันมีกองทุน LTF อยู่ทั้งหมด 53 กองทุน โดยมีมูลค่าเงินลงทุนทั้งหมดราว 2.44 แสนล้านบาท

ด้านนายพีระพงศ์ จิระเสวีจินดา กรรมการผู้จัดการ กลุ่มจัดการกองทุน บลจ.บัวหลวง เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวขึ้นไปแตะระดับ 1,700 จุด โดยมองว่าจะมีปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย ที่คาดว่าตัวเลข GDP ของไทยจะสามารถเติบโตได้ถึง 4% จากการใช้นโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐฯในด้านต่าง ๆ ตั้งแต่ปลายปีนี้(2557)ที่จะมีการลงทุนอีกมาก โดยเฉพาะการลงทุนโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่

ทั้งนี้ หลังจากที่ดัชนีฯปรับตัวขึ้นไป และปัจจุบันดัชนีฯเทรดในระดับค่า P/E 18 เท่า ซึ่งถือว่าเกือบจะเต็มมูลค่าหุ้นแล้ว ส่งผลให้ตลาดฯมีโอกาสที่จะปรับฐานลงมาราว 5-7% ได้ นอกจากนี้ในช่วงที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยยังไม่มีการปรับฐานที่แท้จริง เนื่องจากการปรับฐานที่แท้จริงต้องใช้ระยะเวลา 2-3 เดือนในการปรับตัวลง แต่ในช่วงที่ผ่านมาตลาดฯปรับตัวลงไปเพียง 2-3 วัน แล้วรีบาวด์ขึ้นมา จึงยังไม่เรียกว่าเป็นการปรับฐานเท่าไร


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ