ภาวะตลาดตราสารหนี้ไทย: Yield Curve ปรับเพิ่มในตราสารอายุ 20 ปีขึ้นไป

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday October 31, 2014 09:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA)สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทย ( 30 ต.ค. 57) มีมูลค่าการซื้อขายรวม 54,960 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด คือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 33,150 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 60.3% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ ลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 14,579 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 26.5% ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 575 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.0% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด

สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB15DA, LB196A และ LB176A (รุ่นอายุ 1.2 ปี, 4.7 ปี และ 2.7 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 10,681 ล้านบาท หรือคิดเป็น 73% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ

1. หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ และไม่มีประกันของบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (LH174A) มูลค่า 81.0 ล้านบาท

2. หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ และไม่มีประกันของบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (LH165A) มูลค่า 80.3 ล้านบาท

3. หุ้นกู้มีผู้ค้ำประกันของบริษัท ลีสซิ่งไอซีบีซี (ไทย) จำกัด (ICBCTL175A) มูลค่า 61.2 ล้านบาท

โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 222.5 ล้านบาท หรือคิดเป็น 38.7% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้

ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ

1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 13,347 ล้านบาท

2. กลุ่มสถาบันการเงินที่ไม่มีใบอนุญาตเพื่อค้าตราสารหนี้ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 843 ล้านบาท

ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 1,275 ล้านบาท

ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.05% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 2.78% ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 0.01%

>>ภาพรวมของตลาดในวันนี้ ( 30 ต.ค. 57)

Yield Curve ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในตราสารอายุ 20 ปีขึ้นไป ประมาณ 1 bp. ล่าสุดคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ประกาศยุติมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ดำเนินการมาเป็นเวลา 6 ปี เนื่องจาก Fed เล็งเห็นว่า ภาวะเศรษฐกิจและตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ Fed ส่งสัญญาณว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวต่อไป ซึ่งส่งผลต่อ Global Sentiment ในเชิงบวก สำหรับนักลงทุนต่างชาติวันนี้มียอดซื้อสุทธิ (NET BUY) เท่ากับ 1,275 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ