RATCH ตั้งงบลงทุนปี 58 จำนวน 1.25 หมื่นลบ.ใช้จากกระแสเงินสด-กำไร

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday November 21, 2014 11:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพงษ์ดิษฐ พจนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง (RATCH) เปิดเผยว่า ในปี 58 บริษัทตั้งงบลงทุนจำนวน 1.25 หมื่นล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการโรงไฟฟ้าที่มีการพัฒนาอยู่แล้ว โดยส่วนใหญ่นำไปลงทุนส่วนทุนของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนหงสาในลาว กำลังผลิต 1.87 พันเมกะวัตต์ คาดว่าจะจ่ายไฟเข้าระบบยูนิตแรกมิ.ย. 58

ด้านนายวุฒิชัย ตันทุรานันท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่การเงิน RATCH กล่าวว่า แหล่งทุนใช้ในการลงทุนปีหน้ามีพร้อมอยู่แล้วมาจากกระแสเงินสดที่มี 1 หมื่นล้านบาท และมาจากการกำไรจากการดำเนินงาน โดยคาดว่ากำไรปีนี้ใกล้เคียงปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 6.18 พันล้านบาท ส่วนปีหน้าคาดว่าจะกำไรดีกว่าปีนี้เพราะจะมีกำลังการผลิตใหม่เข้ามาในระบบอีก 350 เมกะวัตต์

"ความท้าทายในปี 58 เป้าหมายที่จะเพิ่มมูลค่ากิจการเป็น 133,000 ล้านบาท แสดงว่าเราต้องสร้างมูลค่าอีก 12,000 ล้านบาท ซึ่งก็ไม่ง่าย ซึ่งโครงการที่เราเข้าไปดู และถ้าสามารถทำได้ก็มีโอกาสบรรลุเป้าหมาย ส่วนปีนี้คิดว่าโตตามเป้าหมายที่ 121,000 ล้านบาท" นายพงษ์ดิษฐ กล่าว

อนึ่ง ในช่วงปี 57-58 RATCH เตรียมเข้าลงทุนโครงการในต่างประเทศ จำนวน 8 โครงการ เป็นโครงการในพม่า 3 โครงการ ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินสะอาด เมืองมะริด กำลังการผลิต 2,460 เมกะวัตต์ มูลค่าโครงการ 4-5 พันล้านเหรียญ โดยบริษัทจะเข้าถือหุ้น 45%ร่วมทุนกับพันธมิตรพม่า ขณะนี้ได้เซ็นเอ็มโอยูแล้วเมื่อ อยู่หว่างทำการศึกษาความเป็นไปได้ของโครกงารและทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม( EIA) หากเสร็จก็คาดว่าจะเซ็นลงนามบันทึกข้อตกลง (MOA)กับรัฐบาลพม่า ในปลายปี 58 หรือต้นปี 59

โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินปาเหมืองที่เชียงตุง ขนาดกำลังการผลิต 600 เมกะวัตต์ มูลค่าโครงการ 1 พันล้านเหรียญ บริษัทจะเข้าถือหุ้น 55% โดยบริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการและคาดจะได้ลงนามบันทึกข้อตกลงได้หลังทำผลการสึกษาเสร็จในเดือนเม.ย.58 ทั้งนี้ คาดว่าโครงการโรงไฟฟ้าปากเหมืองที่เชียงตุงน่าจะดำเนินการได้ก่อน

และธุรกิจเชื้อเพลิง บริษัทจะเข้าร่วมทุนกับบมจ.ปตท(PTT) ในโครงการคลังแอลเอ็นจี ( LNG Terminal) เฟส 3 ขนาด 5 ล้านตัน ตั้งอยู่ในประเทศพม่า เพื่อทดแทนก๊าซจากแหล่งเยตากุน และยาดานาจากพม่าใกล้หมดอายุสัญญาและเชื่อว่ารัฐบาลพม่าจะไม่ต่อสัญญา อีกทั้งคุณภาพก๊าซจากทั้งสองแหล่งไม่แน่นอน การตั้งคลังแอลเอ็นจี จะป้อนให้กับโรงไฟฟ้ากลุ่ม RATCH ที่ใช้ก๊าซสูงอยู่แล้วและเป็นลูกค้ารายใหญ่ของปตท. จึงได้ขอร่วมถือหุ้นประมาณ 20-30%

ส่วนในออสเตรเลีย มีแผนพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานลม ขนาด 160-180 เมกะวัตต์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเสนอขายไฟฟ้ากับผู้ซื้อ คาดว่าจะได้ความชัดเจนในไตรมาส 1/58 , โครงการสายส่งแรงสูงขนา 230 KV ระยะทาง 125 กม. ในกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาในรายละเอียด คาดว่าจะได้ข้อสรุปปีนี้ โดยบริษัทจะร่วมลงทุน 50% ใช้เงินลงทุน 3 พันล้านบาท

สำหรับในเวียดนาม บริษัทจะเข้าไปพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้า IPP ขนาด 1,200 เมกะวัตต์ เป็นโรงไฟฟ้าถ่านหินใช้เงินลงทุน 2 พันล้านเหรียญ โดย RATCH จะเข้าถือ 30% EGAT International ถือ 40% และพันธมิตรท้องถิ่น 30% คาดจะลงนามร่วมทุนในปลายปีนี้

นอกจากนี้ บริษัทจะลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่นเพิ่มเติมจากเดิมลงทุนไปแล้ว 33 เมกะวัตต์ จะเพิ่มเป็น 100- 120 เมกะวัตต์ ซึ่งร่วมทุนกับ บมจ. เชาว์สตีล (CHOW) เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าการลงทุน ระหว่างนี้ทำ Due Diligence อยู่ 4-5 โครงการ คาดเริ่มใด้ในปี 58

และโครงการสุดท้ายคือ โครงการลงทุนเหมืองถ่านหินในอินโดนีเซีย โดยบริษัทสนใจเข้าร่วมทุนจำนวน 2 โครงการ คาดว่าจะใช้เวลาตัดสินใจคัดเลือกภายใน 3 เดือน บริษัทสนใจจะถือหุ้นเพียง 10-20%

นายพงษ์ดิษฐ์ กล่าวว่า บริษัทคาดว่าจะใช้เงินลงทุน 3.4 หมื่นล้านบาท ในส่วนทุน สำหรับ 6 โครงการ อีก 2 โครงการในญี่ปุ่นและ อินโดนีเซียยังไม่ได้กำหนดงบประมาณ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ