การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,600.65 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,591.71 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 340 หลักทรัพย์ ลดลง 463 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 236 หลักทรัพย์
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชเค โอเอสเค(ประเทศไทย) กล่าว ว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงรับผลจากโอเปคคงกำลังการผลิต ทำให้ราคาน้ำมันโลกอ่อนตัวลงอย่างหนัก กดดันให้เกิดแรงเทขายหุ้นในกลุ่มพลังงานออกมามาก โดยเฉพาะหุ้นกลุ่ม บมจ.ปตท.(PTT)เนื่องจากมีน้ำหนักค่อนข้างมากในตลาดบ้านเรามากกว่า 20% ขณะที่ตลาดอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวกรับผลดีจากราคาน้ำมันลดลงทำให้ต้นทุนภาคธุรกิจถูกลงด้วย ขณะที่กลุ่มพลังงานในแต่ละตลาดในเอเชียไม่ได้มีน้ำหนักมากเท่ากับตลาดหุ้นไทย
แต่หากมองว่าราคาน้ำมันในตลาดโลกหากปรับตัวลงลึกก็จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศได้ เพราะไทยมีการใช้พลังงานถึง 18% ของ GDP ของไทย เพียงแต่ช่วงแรกอาจได้รับผลกระทบในแง่ของกลุ่มพลังงานที่ถ่วงตลาดฯเท่านั้น
ทั้งนี้ สัปดาห์หน้าให้ติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB)ที่จะมีขึ้นในวันที่ 4 ธ.ค.นี้จะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาหรือไม่ พร้อมทั้งติดตามตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนและการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ
แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า นายศราวุธ กล่าวว่า ตลาดฯยังปรับตัวขึ้นไปได้เนื่องจากมองว่ากองทุน LTF-RMF จะยังช่วยหนุนตลาดฯ โดยเฉพาะในเดือน ธ.ค.จะมีเม็ดเงินเข้ามามาก พร้อมให้แนวรับ 1,587 จุด ส่วนแนวต้าน 1,605 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 3,609.66 ล้านบาท ปิดที่ 135.50 บาท ลดลง 7.50 บาท
MTLS มูลค่าการซื้อขาย 2,848.54 ล้านบาท ปิดที่ 11.70 บาท ลดลง 0.30 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,507.14 ล้านบาท ปิดที่ 383.00 บาท ลดลง 7.00 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,331.27 ล้านบาท ปิดที่ 196.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 1,321.87 ล้านบาท ปิดที่ 12.10 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง