PTTEP คาด Q4/57 กำไรฯวูบตามน้ำมันร่วง,รับบักทึกด้อยค่ากดดันงบปีนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday December 12, 2014 10:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสาวเพ็ญจันทร์ จริเกษม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานการเงินและการบัญชี บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม(PTTEP) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/57 ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวลงอย่างมาก ทำให้กำไรจากการดำเนินงานลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/57

แต่คงจะกระทบในระดับที่ไม่มากนัก เพราะสัดส่วนยอดขายน้ำมันและคอนเดนเสทอยู่ที่ประมาณ 30% ของยอดขายรวม ส่วนราคาก๊าซเป็นการขายตามสัญญาระยะยาวและมีสูตรปรับราคา จึงรับผลกระทบช้ากว่าราคาน้ำมันราว 6 เดือน นอกจากนั้น บริษัทยังมีการทำประกันความเสี่ยงราคาน้ำมันไว้ประมาณ 70-80%ของยอดขายน้ำมัน ทั้งนี้ คาดว่าราคาขายผลิตภัณฑ์ของบริษัทเฉลี่ยในปีนี้คงปรับลงมาที่ราว 60 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ต่ำกว่าปีก่อนที่มีราคาขายเฉลี่ย 65.58 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

ขณะเดียวกัน การที่ราคาน้ำมันปรับลดลงอย่างมาก ทำให้บริษัทต้องบันทึกการด้อยค่าสินทรัพย์ตามมาตรฐานทางบัญชี โดยสินทรัพย์หลักที่จะมีการบันทึกฯ ได้แก่ แหล่งมอนทาราในออสเตรเลีย และโครงการแคนาดา ออยล์แซนด์ เคเคดี ซึ่งจะส่งผลกระทบต่องบกำไรขาดทุนในปี 57 อย่างไรก็ตาม ปัจจัยดังกล่าวเป็นเพียงการขาดทุนทางบัญชีแต่ไม่ได้กระทบงบกระแสเงินสด

นางสาวเพ็ญจันทร์ กล่าวว่า แหล่งมอนทารามีกำลังการผลิตเฉลี่ยในปีนี้ 1.7-1.8 หมื่นบาร์เรล/วัน และปีหน้าคาดว่าจะผลิตได้ใกล้เคียงปีนี้ โดยแหล่งดังกล่าวมีค่าเสื่อมค่อนข้างมากและต้นทุนต่อหน่วยสูงจากการผลิตที่ล่าช้า รวมทั้งการซ่อมแซมจากเหตุเพลิงไหม้ ขณะที่มีค่าใช้จ่ายการดำเนินงานจริง(cash cost)ประมาณ 20-30 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลเท่านั้น

นอกจากนี้ บริษัทได้ปรับลดค่าใช้จ่าย(OPEX) และเงินลงทุน(CAPEX) ในปีนี้รวมกัน 70-80 ล้านเหรียญ ส่วนในปี 58 จะปรับลดวงเงินลง 240 ล้านเหรียญ ด้วยการตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป และจัดลำดับความสำคัญการใช้เงินในแต่ละโครงการใหม่ ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้บริษัทได้ตั้งงบลงทุนในแต่ละไว้ที่ 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ

แต่ขณะเดียวกัน ในช่วงที่ราคาน้ำมันปรับลดลง บริษัทก็มองเห็นเป็นโอกาสเป็นจังหวะเข้าลงทุนสินทรัพย์ที่ราคาถูกลง ซึ่งบริษัทได้เตรียมเงินสดพร้อมเข้าลงทุนอยู่แล้วประมาณ 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ

"เรายังมีกระแสเงินสดมาก เรามีเงินสดในมือถึง3พันล้านเหรียญ เราเตรียมการมาตั้งแต่ตอนเมื่อมี crisis เราก็พร้อมซื้อของ โครงสร้างเงินทุนของเราแข็งแรงมากๆ. ..ราคาน้ำมันลงอย่างนี้ธุรกิจน้ำมันมาร์จิ้นหาย ขณะเดียวกันถ้าเรามีฐานะพร้อมก็เป็นโอกาสเช่นกัน"นางสาวเพ็ญจันทร์ กล่าว

ส่วนการดำเนินธุรกิจในปี 58 บริษัทคาดว่าปริมาณขายปิโตรเลียมจะเติบโตขึ้นราว 6-7% จากปีนี้ เนื่องจากรับรู้รายได้แหล่งซอติก้าเต็มปี และแหล่งเบอร์ซาบาร์ในแอลจีเรียจะเริ่มผลิตได้ในไตรมาส 2/58 โดยเลื่อนออกไปจากไตรมาส 1/58 ภายใต้กำลังการผลิต 2 หมื่นบาร์เรล/วัน ส่วนราคาจำหน่ายยังต้องติดตามราคาน้ำมันในตลาดอย่างใกล้ชิด ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะสูงกว่าต้นทุนการผลิตต่อหน่วยที่ 44-45 เหรียญ/บาร์เรล


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ