นอกจากนั้น บริษัทยังอยู่ระหว่างการศึกษาและมองหาที่ดินสำหรับพัฒนาเป็นสถานีบริการน้ำมันขนาดใหญ่ในลักษณะจุดพักรถเพิ่มเติม โดยคาดว่าจะใช้พื้นที่ประมาณ 8-11 ไร่ คาดว่าภายในปลายปีหน้าจะสร้างเพิ่มเติมได้อีกอย่างน้อย 1 แห่ง และบริษัทมีแผนจะเปิดร้านค้าปลีกในลักษณะคาเฟ่ คอนวิเนียน ภายใต้แบรนด์ JOY ในปีนี้เพิ่มอีก 2 แห่งที่จังหวัดเชียงใหม่และย่านพุทธมณฑล หลังจากปีนี้เปิดไปแล้ว 2 แห่ง
บริษัทตั้งเป้ายอดขายในปี 58 เติบโต 4% จากปีนี้ที่คาดว่าจะมียอดขายที่ราว 5,000 ล้านบาท ซึ่งเติบโตต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้หลังจากธุรกิจค้าปลีกภายในประเทศได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอตัวตั้งแต่ต้นปี ขณะที่บริษัทเชื่อว่าธุรกิจค้าปลีกน่าจะเติบโตได้เล็กน้อยในปีหน้า โดยเครือ PTT มีแผนเพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจค้าปลีกเป็น 60% จากปัจจุบันอยู่ที่ 50% ภายใน 5 ปีจากนี้ (58-62)
"เราตั้งเป้ายอดขายเติบโตได้ 4% จากปีนี้ มองธุรกิจค้าปลีกภายในปั๊มไม่น่ากลัว แต่นอกปั๊มการแข่งขันจะสูง โดยเราจะมีการขยายสาขาปั๊ม Jiffy เพิ่ม จากปัจจุบันมีปั๊มอยู่ 150 แห่ง และลงทุนซื้อที่ดิน เพื่อทำจุดพักรถ ซึ่งมองไว้ว่าน่าจะเป็นเส้นทางในภาคเหนือหรือไม่ก็ภาคอีสาน เรามองว่าน่าจะเป็นจุดพักรถนำร่อง 1 ที่"นายจักรกฤช กล่าว
สำหรับแผนการเปิดสาขาธุรกิจร้านค้าปลีกแบรนด์ Jiffy ทั้งในและนอกสถานีบริการน้ำมัน รวมทั้งการขยายกิจการสถานีบริการน้ำมันของ ปตท.ในต่างประเทศนั้น บริษัทมีแผนเปิดสาขาเพิ่มอีก 17 แห่ง โดยจะเป็นสาขาในลาว 7 แห่ง และกัมพูชา 10 แห่ง ขณะที่มีความสนใจเข้าไปลงทุนในพม่าอีกด้วย โดยอยู่ระหว่างศึกษาข้อกฎหมาย ส่วนกิจการในฟิลิปปินส์นั้น บริษัทจะเข้าไปดำเนินการปรับปรุงธุรกิจค้าปลีกให้เป็นรูปแบบเดียวกันกับประเทศไทย จากปัจจุบันที่มีสาขาทั้งหมด 30-40 แห่ง
ส่วนการขยายกิจการแบรนด์ชานมไข่มุก Pearly Tea ที่เป็นธุรกิจแฟรนไชส์ของบริษัทนั้น หลังจากที่ใช้เวลาสร้างร่วมเกือบ 2 ปี ถือได้ว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก มีสาขากว่า 150 สาขา และยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าไว้ว่าจะขยายสาขาแฟรนไชส์เพิ่มอีก 100 สาขาในปี 58 ซึ่งธุรกิจชานมไข่มุกมีการแข่งขันกันสูง เนื่องจากมีสินค้าหลากหลายแบรนด์ในตลาด ดังนั้น บริษัทจึงคัดเคมเปญ“ดื่ม Pearly Tea, ลุ้นฟรี iPhone 6 ทุกวัน 30 วัน 30 เครื่อง"เริ่มตั้งแต่วันที่ 25 ธ.ค.57-23 ม.ค.58
ทั้งนี้ นายจักรกฤช ยังกล่าวถึงแผนการนำบริษัท ปตท.บริหารธุรกิจค้าปลีก จำกัด เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศในอนาคตว่า คงต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของทางบริษัทแม่ คือ PTT เป็นหลัก เนื่องจากถือหุ้นใน PTTRM ทั้ง 100%