กบข.คาดผลตอบแทนลงทุนปี 58 ต่ำกว่าปีนี้ที่ 6% ตามทิศทางดบ.แต่ยังสูงกว่าเงินเฟ้อ

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday December 23, 2014 14:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า คาดปีนี้ผลตอบแทนจากการลงทุนของ กบข.จะอยู่ที่ราว 6% สูงกว่าปีก่อนที่ทำได้ราว 4.5% ขณะที่ปีหน้า (58) คาดผลตอบแทนจากการลงทุนกบข. มีแนวโน้มต่ำกว่าปีนี้ แต่สูงกว่าอัตราเงินเฟ้อ 2-3% เพราะคาดเศรษฐกิจเติบโตในลักษณะค่อยเป็นค่อยไปไม่หวือหวา โดยปี 58 คาดการณ์จีดีพีเติบโต 3-4% ขณะที่มองทิศทางดอกเบี้ยในประเทศอยู่ในระดับต่ำเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งผลให้ผลตอบแทนจากการลงทุนในพันธบัตรมีโอกาสลดลง ซึ่งการลงทุนในพันธบัตรมีสัดส่วนกว่า 60% ของพอร์ตรวมทั้งหมด

ทั้งนี้ กบข.มีสินทรัพย์สุทธิอยู่ที่ 703,809 ล้านบาท (ณ 30 พ.ย. 57) ผลตอบแทนเฉลี่ยตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 6.9% ต่อปี และผลตอบแทนของปี 57 (นับถึง 16 ธ.ค. 57) อยู่ที่ 5.9% สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำธนาคารและอัตราเงินเฟ้อในระยะเวลาเดียวกัน ซึ่งอยู่ที่ระดับ 1.7 % และ 1.1% ตามลำดับ

ส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นไทยปี 58 แนวโน้มดีโดยคาดจะเห็นดัชนีฯแกว่งตัวและเป็นจังหวะที่สามารถทำกำไรได้ หลังในช่วงท้ายปีดัชนีฯมีการปรับตัวลดลงแรงวันเดียวกว่า 138 จุด ทำให้คาดยังมีอัพไซด์รวมถึงคาดผลตอบแทนการลงทุนในตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มที่ดี และเหมาะสำหรับนักลงทุนที่มองการลงทุนระยะยาว

ขณะเดียวกันคาดเศรษฐกิจไทยปี 58 ยังมีการเติบโต โดยเฉลี่ยมีโอกาสที่จะเติบโตได้ราว 3-4% อย่างไรก็ตาม ตลาด ต้องติดตามปัจจัยต่างประเทศประกอบ ทั้งเรื่องการกำหนดนโยบายการเงินของประเทศหลัก โดยเริ่มจะเห็นสัญญาณสหรัฐมีแนวโน้มที่จะขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ย สะท้อนว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะค่อยๆ ฟื้นตัว แต่ทั้งนี้ ยอมรับว่าการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ย หรือการกำหนดนโยบายของต่างประเทศ จะมีผลต่อทิศทางเม็ดเงินลงทุนต่างประเทศ

ด้านนายยิ่งยง นิลเสนา รองเลขาธิการ กลุ่มงานบริหารกองทุน กบข. เปิดเผยว่า รู้สึกพอใจกับผลตอบแทนการลงทุนของ กบข. ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันที่ทำได้ระดับ 5.90% เนื่องจากผลตอบแทนชนะอัตราเงินเฟ้อ และเงินฝาก สำหรับปัจจุบันการลงทุนของ กบข.แบ่งเป็นการลงทุนในพันธบัตรราว 60% และลงทุนหุ้นกู้เล็กน้อย

นอกจากนี้ แบ่งเป็นการลงทุนในตลาดหุ้นไทย 11.5% และตลาดหุ้นต่างประเทศ 14% สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ ส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นไทยจะเพิ่มหรือลดสัดส่วนในจังหวะใดนั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และความเหมาะสม โดยคำนึงโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดี

กรณีที่ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้ผ่านร่างพระราชบัญญัติการกลับไปใช้สิทธิในบำเหน็จบำนาญ ตามพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2494 พ.ศ. .หรือ พ.ร.บ.อันดู (UNDO) นั้น กบข.คาดมีสมาชิกใช้สิทธิ UNDO ราว 2.1 แสนคน หรือ 30% โดยคิดเป็นจำนวนเงินที่ต้องคืนสมาชิกประมาณ 4 หมื่นล้านบาท

พร้อมกันนี้ กบข. คาดจะมีสมาชิกที่อยู่ต่อราว 70% หรือ 5 แสนคน ซึ่งปัจจุบันกำหนดให้สมาชิกแจ้งได้แล้วตั้งแต่วันนี้ จนถึง 30 มิ.ย. 2558 และจะมีผลในวันที่ 1 ต.ค. 2558 โดย กบข.ได้เตรียมการเรื่องสภาพคล่องไว้เรียบร้อยแล้ว และไม่ต้องขายสินทรัพย์เพิ่มเติม ในกรณีที่มีสมาชิกลาออกเกินกว่าจำนวนที่คาดไว้ นอกจากนี้ ในแต่ละปีจะมีจำนวนสมาชิกใหม่ๆที่เข้ามาเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ กบข.ได้จัดกิจกรรมเพื่อให้ความรู้กับสมากชิกอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการให้ข้อมูลและติดต่อสื่อสารกับสมาชิกข้าราชการให้มีความเข้าใจการเรื่องการลงทุน และชี้แจงเรื่องสิทธิประโยชน์ของการเป็นสมาชิก กบข. อย่างไรก็ดี เตือนสมาชิกอย่าพิจารณาตามกระแสเพราะหากเป็นสมาชิก กบข.ต่อไป จะได้รับเงินก้อนเมื่อเกษียณอายุ โดยเมื่อรวมเงินสมทบของตนเอง 200,000 บาท และเงินประเดิมก้อนแรก, เงินสมทบจากภาครัฐ 3% และเงินชดเชยที่รัฐสะสม 2% คิดเป็น 800,000 บาท ขึ้นอยู่กับอายุงาน รวมประมาณ 1 ล้านบาท ซึ่งหากสมาชิกยื่นใช้สิทธิ UNDO จะได้เงินจำนวน 200,000 บาท ทั้งนี้ หากสมาชิกทำเรื่องลาออกจากสมาชิก กบข. แล้วจะไม่สามารถกลับมาเป็นสมาชิกใหม่ได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ