พร้อมทั้ง การเพิ่มกองทุนรวมประเภทใหม่ให้สามารถลงทุนในทรัพย์สินหลากหลายมากขึ้น อาทิ กองทุนรวมที่เสนอขายต่อผู้ลงทุนที่มิใช่รายย่อย (AI fund) ซึ่งสามารถลงทุนในหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในกลุ่มประเทศ GMS (Greater Mekong Subregion) และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า โดยไม่จำกัดอัตราส่วนการลงทุน
ตลอดจนกระตุ้นให้บริษัทจัดการเห็นโอกาสการทำธุรกิจในภูมิภาคผ่านกองทรัสต์เพื่อเป็นกลไกการระดมทุนสำหรับกิจการโครงสร้างพื้นฐานในต่างประเทศ (Infrastructure Trust) เพื่อให้ประเทศไทยพัฒนาเป็นศูนย์เชื่อมโยงการระดมทุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาค ขณะเดียวกับที่ผู้ลงทุนจะมีทางเลือกการลงทุนที่หลากหลายขึ้น ซึ่งคาดว่าประกาศที่เกี่ยวข้องจะมีผลใช้บังคับในต้นปี 58
"ก.ล.ต.ส่งเสริมให้บริษัทจัดการเห็นโอกาสธุรกิจในการใช้กองทุนรวมที่มีความหลากหลายของนโยบายการลงทุน เช่น กองทุนรวมการออมเพื่อการศึกษา กองทุนรวมการออมเพื่อดูแลสุขภาพ และกองทุนรวมรองรับเงินก้อนหลังเกษียณเพื่อช่วยเพิ่มทางเลือกทางการลงทุนให้กับประชาชนและเป็นเครื่องมือที่ช่วยแก้ปัญหาการออมของภาคประชาชนซึ่งเป็นปัญหาพื้นฐานของประเทศ"นายวรพล กล่าว