บลจ.ไทยพาณิชย์ ออกกองหุ้น Mid/Small Cap มองตลาดหุ้นปี 58 ปัจจัยบวกหนุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday January 13, 2015 14:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมิทธ์ พนมยงค์ กรรมการผู้อำนวยการ บลจ.ไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า บริษัทฯเตรียมที่จะเสนอขายกองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นทุน Mid/Small Cap (SCB Mid/Small Cap Equity Fund) มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท เนื่องจากในขณะนี้ระดับดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในปัจจุบันได้ปรับตัวลดลงมาอยู่ในช่วงที่น่าสนใจลงทุนแล้ว และมองว่าเป็นจังหวะตลาดที่เหมาะสมในการลงทุนหุ้นขนาดกลางและเล็ก โดยกำหนดให้เปิดจองซื้อระหว่าง วันที่ 15–20 ม.ค.2558 ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำครั้งแรกเพียง 5,000 บาท และครั้งถัดไปเพียง 1,000 บาท

สำหรับกองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นทุน Mid/Small Cap มีนโยบายลงทุนในหุ้นขนาดกลางและเล็ก ซึ่งเป็นหุ้นที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่ไม่รวมอยู่ในดัชนี SET50 และ/หรือลงทุนในหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ มีการบริหารการลงทุนแบบเชิงรุกมุ่งเน้นหุ้นที่มีอัตราการเติบโตของกำไรสูงและต่อเนื่องตลอดจนเน้นการลงทุนระยะยาว

ทั้งนี้ จะเลือกลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก อาทิ กลุ่มส่งออก กลุ่มที่มีกิจการต่างประเทศ กลุ่มท่องเที่ยว และจากราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลง อาทิ กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคและการค้าปลีก กลุ่มขนส่ง รวมถึงการลงทุนและการพัฒนาสาธารณูปโภคต่าง ๆ อาทิ กลุ่มรับเหมาและวัสดุก่อสร้าง กลุ่มสื่อสารโทรคมนาคมและระบบไอที เป็นต้น นอกจากนี้ ยังรวมถึงหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวมีการเติบโตของกำไรในระดับดีอย่างต่อเนื่องและมีมูลค่าตามปัจจัยพื้นฐานที่น่าสนใจลงทุน

สำหรับการเติบโตของเศรษฐกิจไทย คาดว่าจีดีพีจะปรับตัวดีขึ้นที่ระดับ 3 –3.5% และอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิของดัชนีตลาดหลักทรัพย์จะปรับตัวขึ้นประมาณ 15% เนื่องจากฐานกำไรสุทธิที่ค่อนข้างต่ำในปี 2557 โดยบลจ.ไทยพาณิชย์ ได้ประมาณการณ์เป้าหมายของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในช่วงปลายปี 2558 อยู่ระหว่าง 1,664 – 1,792 จุด ที่ระดับค่า P/E ที่ 13 – 14 เท่า ซึ่งเมื่อเทียบกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในปัจจุบันที่ 1,500 จุดยังคงมีโอกาสที่ปรับตัวขึ้นไม่ต่ำกว่า 10%

ภาพรวมการลงทุนในปี 2558 การลงทุนในตลาดทุนยังเป็นสินทรัพย์ที่จะให้ผลตอบแทนสูงกว่าสินทรัพย์ประเภทอื่นเนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกโดยรวม และจากการใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินของประเทศเศรษฐกิจสำคัญ ส่งผลทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ในระดับต่ำและมีเม็ดเงินสภาพคล่องเข้ามาในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญของตลาดหลักทรัพย์ในหลายภูมิภาค


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ