(เพิ่มเติม) ADVANC วางเป้า 5 ปีเป็น Digital Life Service Provider ตั้งงบลงทุนปีนี้ 4 หมื่นลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday January 29, 2015 18:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิทิต ลีนุตพงษ์ ประธานกรรมการ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส(ADVANC) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า ในปี 58 เทคโนโลยีดิจิทัลได้เข้าไปเป็นส่วนสำคัญในการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศที่กำลังขยายตัวในทุกด้าน เอไอเอสจึงเตรียมการวางแผนล่วงหน้าระยะ 5 ปี โดยตั้งเป้าเป็น“ผู้สร้างสรรค์บริการดิจิทัลเพื่อคนไทย – Your Digital Life Partner" เพื่อให้คนไทยยกระดับการใช้ชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพจากเทคโนโลยีดิจิทัล โดยได้เตรียมเงินลงทุนกว่า 4 หมื่นล้านบาทในปี 58 เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน พร้อมพลิกโฉมองค์กรเพื่อก้าวสู่การเป็นพันธมิตรกับทุกกลุ่มอย่างเต็มรูปแบบ
"เอไอเอส จะเป็นผู้นำในการนำ digital มาให้บริการ จากที่ให้บริการมา 25 ปี เราเป็น CHANG (ช้าง) และในปีนี้ 58 เราจะลงทุนมากวก่า 4 หมื่นล้านบาท ขยายโครงข่าย และขยายบรอดแบนด์ ปีนี้เราจะ Change"ประธานกรรมการ ADVANC กล่าวในงาน "AIS Vision 2015 LIVE Digital LIVE More"

นายสมชัย เลิศสุทธิวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ADVANC กล่าวว่า การลงทุนในปีนี้จะขยายเครือข่าย 3G ที่ได้เตรียมงบลงทุนไว้ 3 หมื่นล้านบาท โดยจะเพิ่มสถานีฐานเป็น 29,000 สถานีฐานซึ่งจะเพิ่มในพื้นที่ที่มีการใช้งานหนาแน่นในเมืองใหญ่ เช่น กรุงเทพ ภูเก็ต เชียงใหม่ เป็นต้น จากสิ้นปี 57 มีสถานีฐาน 20,000 สถานีที่เครือข่ายครอบคลุม 97% ของพื้นที่ในไทยหรือ 77 จังหวัด

ส่วนอีก 1 หมื่นล้านบาท จะลงทุน Fixed Broadband และรองรับงานด้านอื่น ขณะที่การลงทุนระบบ 4G ยังไม่ได้กำหนดขึ้นอยู่กับเอกสารประมูลระบบ 4G ซึ่งจะนำคลื่อน 1800 MHz และ คลื่น 900 MHz มาประมูล

ปัจจุบัน เอไอเอสมีฐานลูกค้าทั้งหมด 44 ล้านราย โดยเป็นลูกค้า 3G 2100 จำนวน 30 กว่าล้านราย และทีเหลือยังมีอีกกว่า 10 ล้านรายอยู่ในระบบ 2G

นายสมชัย คาดว่า รายได้จาก voice ปีนี้ลดลง 5% จากปีก่อน ซึ่งปรับลดลงตามอุตสาหกรรมภาพรวม อย่างไรก็ตาม รายได้จาก voice และการใช้ดาต้า ก็ยังเป็นรายได้หลักของบริษัท และจะมีรายได้ digital content เป็นรายได้เสริมเข้ามา ซึ่งคาดว่าในอนาคตจะเติบโตอย่างมาก

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ADVANC กล่าวว่า การลงทุน Fixed Broadband ของเอไอเอสในขณะนี้ถือเป็นช่วงจังหวะเวลาที่เหมาะสม เพราะได้เทคโนโลยีใหม่ที่ไม่แพง ขณะที่รายอื่นที่ใช้เทคโนโลยี ADSL นานแล้ว ซึ่งเป็นระบบที่ใช้งานกว่า 90% ในไทย จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนเทคโนโลยี

ดังนั้น ภายในไตรมาส 1/58 เอไอเอส จะทำการตลาดการให้บริการ Fixed Broadband ด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่มีความเร็ว 1 Gbps เริ่มให้บริการแล้วในเขตกรุงเทพและปริมณฑล และคาดว่าในอีก 5 ปีข้างหน่าจะมีส่วนแบ่งการตลาดรายใหญ่รายหนึ่งของผู้ให้บริการ หรือประมาณ 25-30% โดยตั้งเป้า 10 ล้านครัวเรือนใน 5 ปี เพราะวันนี้ เอไอเอส มีไฟเบอร์ความยาว 1.2 แสนกิโลเมตร ซึ่งสามารถลากสายเข้าถึงบ้านได้ หรือ Fibre to home ได้ทันที ขณะเดียวกัน ได้มีการพัฒนาคุณภาพ AIS Wifi ไปสู่ AIS Super Wifi ด้วยความเร็วสูงขึ้นเริ่มจาก 600 Mbps ซึ่งเร็วกว่า เทคโนโลยี 4G ราว 5-6 เท่า

นายสมชัย กล่าวว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมโทรคมนาคมในปี 58 บริษัทคาดการณ์ว่าตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่จะเติบโต 3-4% หรือคิดเป็นมูลค่ารายได้ 233,000 ล้านบาท และตลาดการจัดจำหน่ายอุปกรณ์โทรศัพท์เคลื่อนที่ต่างๆเติบโตขึ้นประมาณ 10% คิดเป็นรายได้ทางการตลาด 127,000 ล้านบาท รวมถึงตลาด Fix Broadband น่าจะเติบโตสูงขึ้น 15% มีมูลค่าทางการตลาด 62,000 ล้านบาท ขณะที่การใช้งานด้านเสียง (Voice) จะลดลง 5% ซึ่งเป็นไปตามการใช้งานของ Internet ที่เพิ่มสูงขึ้น มองว่า Data Internet จะมีการใช้งานถึง 200%

นายสมชัย กล่าวว่า เอไอเอสขยายบริการดิจิทัลเพื่อตอบโจทย์ของลูกค้าที่เปลี่ยนไป จึงได้มีการให้บริการเพิ่มได้แก่ AIS Play Box เป็นกล่องดิจิทัลที่สามารถรับชมความบันเทิงจาก AIS Entertainment App , เกมส์ ที่ได้ร่วมพันธมิตรเข้ามาร่วม, Mobile Money เป็นการพัฒนาจาก Mpay ที่ให้บริการทางการเงิน , AIS Cloud บริการเก็บข้อมูลทุกอย่าง และ AIS Business Solution ต่างๆ

"ภายใน 5 ปี AIS จะเปลี่ยนจาก Telecom Service Provider เป็น Digital Life Service Provider โดยปัจจุบันเรามีลูกค้าอยู่ 44 ล้านเลขหมาย ซึ่งเอไอเอส มีความพร้อมที่จะลงทุน Wirless network,Fixed Broadband และ Digital Services น่วมกับพาสเนอร์ เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายของ AIS ในการเป็น AIS Live Digital,Live More"

พร้อมกันนี้บริษัทฯ มั่นใจในความพร้อมสำหรับการเข้าประมูล 4G ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นภายในปีนี้ โดยปัจจุบันบริษัทฯมีฐานะการเงินแข็งแกร่งและมีแหล่งการระดมทุนได้จากหลากหลาย ทั้งกู้จากสถาบันการเงิน หุ้นกู้ และอื่นๆ ขณะที่ศักยภาพของเครือข่ายเพื่อรองรับ 4G ก็ถือว่ามีความพร้อม ซึ่งหากประมูลแล้วเสร็จก็จะสามารถรองรับการใช้งานของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว

นายสมชัย กล่าวว่า สัญญาสัมปทานคลื่น 900 MHz ที่จะหมดลงในช่วงเดือน ก.ย.นี้ จะทำให้บริษัทฯ ลดต้นทุนไปได้กว่า 10% ซึ่งจะรับรู้ได้ในแง่ของกำไรในปี 59 เป็นต้นไป

"สัญญาสัมปทานทำให้บริษัทฯมีต้นทุนกว่า 20% แต่การเปลี่ยนมาใช้ระบบใบอนุญาต จะทำให้มีต้นทุนไม่ถึง 10% ซึ่งจะทำให้ต้นทุนรวมของบริษัทฯ ลดลง ซึ่งจะส่งผลดีต่อกำไรที่เพิ่มขึ้นโดยจะรับรู้เต็มปีในปี 59"นายสมชัย กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ