ทั้งนี้ ล่าสุดการเข้าร่วมกิจการกับ บริษัท เนอวานา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เป็นความสำเร็จของบริษัทในปีนี้ในการทยอยเข้าซื้อหรือร่วมลงทุนของ สิงห์ เอสเตท
นายนริศ เชยกลิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร S คาดว่า ปี 58 บริษัทจะมีรายได้ปีมากว่า 4 พันล้านบาท จากเดิมคาดว่าจะมี 2 พันล้านบาท และเชื่อว่ามีนี้จะพลิกมีกำไร จากปี 57 บริษัทมีรายได้ 202.8 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 106.8 ล้านบาท เนื่องจากในปีนี้บริษัทจะรับรู้รายได้และกำไรหลังจากเข้าร่วมกิจการกับ เนอวานาฯ ตามสัดส่วนถือหุ้น 51% โดยเนอวานา คาดว่าจะมีรายได้ปีนี้ 4 พันล้านบาทและกำไรสุทธิราว 250 ล้านบาท ทั้งนี้ S จะเริ่มบันทึกรายได้และกำไรเต็มไตรมาสในไตรมาส 3/58
รวมทั้ง จะรับรู้รายได้จากโครงการอโศกพลาซ่า และโรงแรมพีพีวิลเลจที่เพิ่งเข้าซื้อเมื่อปลายปีที่แล้วที่มีอัตราการเข้าพักสูง 97%
ด้านนายศรศักดิ์ สมวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เนอวานา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทจะเปิดโครงการใหม่ 5 โครงการ รวมมูลค่าประมาณ 1.1 หมื่นล้านบาท เป็นแนวราบ 2 โครงการ และคอนโดมิเนียม 3 โครงการ ซึ่งขณะนี้มีที่ดินพร้อมรองรับไว้แล้ว จากที่ผ่านมาเปิดโครงการใหม่ปีละ 3 โครงการ
หลังจากนี้ บริษัท เนอวานาฯ จะเพิ่มทุนอีก 700 ล้านบาท เพื่อนำมาพัฒนาโครงการ โดย S จะลงทุนตามสัดส่วนการถือหุ้น ดังนั้น แผนของบริษัทในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เลื่อนออกไป เพราะได้ S เข้ามาสนับสนุนด้านเงินทุน
ส่วนนายนริศ กล่าวอีกว่า ในปีนี้ S จะพัฒนาโครงการเอง 2 แห่ง ได้แก่ โครงการคอนโดมิเนียมที่อยู่บนถนนอโศก มูลค่าโครงการ 4 พันล้านบาท คาดเปิดขายในไตรมาส 2/58 และเริ่มก่อสร้างในไตรมาส 3 หรือไตรมาส 4 ของปีนี้ ส่วนอีกโครงการเป็นแนวราบ อยู่บนถนนประดิษฐ์มนูธรรม มูลค่าโครงการ 4 พันล้านบาท
จากนั้นในปีหน้าจะมีการพัฒนาโครงการเองต่อเนื่องที่จะกระจายไปพัฒนาโครงการศูนย์การค้า อาคารสำนักงานซึ่งมีที่ดินแล้วบนถนนอโศก-เพชรบุรี และโครงการบ้านแนวราบและคอนโดมิเนียม
นอกจากนี้บรีษัทอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อกิจการโรงแรมในประเทศ มูลค่ารวมประมาณ 5-6 พันล้านบาท โดยทั้งหมดอยู่ในจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว คาดว่าจะสรุปดีลได้อย่างน้อย 1 แห่งภายในไตรมาส 2/58
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายเข้าซื้อกิจการและพัฒนาโครงการเองด้วย เพื่อผลักดันให้บริษัทมีการเติบโต โดยตั้งเป้าในปี 62 รายได้บริษัทจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 หมื่นล้านบาท และแต่ละปีจะมีงบซื้อทีดิน 2 พันล้านบาท/ปี
ดังนั้น ในช่วง 5 ปีนี้ (ปี 58-62) บริษัทวางแผนเช้าซื้อกิจการ (M&A)แต่ละปีจะมีธุรกิจโรงแรม 3 แห่ง อาคารสำนักงาน 2 แห่ง และ ศูนย์การค้า 2 แห่ง โดยในช่วงแรกๆ อาจจะเข้าไปร่วมทุน ทั้งนี้บริษัทตั้งงบลงทุนรวมงบซื้อที่ดินในช่วง 5 ปีนี้ ทั้งหมดจำนวน 1 แสนล้านบาท
นายนริศ กล่าวว่า การเข้าซื้อกิจการจะเน้นในประเทศมากกว่า ประมาณ 80% ของพอร์ต ส่วน 20% จะเข้าไปในประเทศแถบอาเซียน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากิจการโรงแรม 1แห่ง เป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว คาดว่าจะสรุปได้ภายในปีนี้