อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้บริษัทได้มีความคิดที่จะระดมทุนผ่าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยด้วยวิธีการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนครั้งแรก (IPO) แต่เนื่องจากบริษัทได้เห็นถึงวิธีการที่สามารถเข้าตลาดได้รวดเร็วกว่าหลังจากบมจ.ซันวู้ดส์อินดัสทรีส์ (SUN) ออกจากแผนฟื้นฟูเมื่อปีก่อน จึงมีแผนในการแลกหุ้น โดยปัจจุบันผู้ถือหุ้นของ BIG ถือหุ้นในสัดส่วน 83% และผู้ถือหุ้นเดิมของ SUN ถือหุ้นในสัดส่วน 17% ทั้งนี้บริษัทเห็นว่าวิธีการดังกล่าวบริษัทได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจำนวน 220 ล้านบาท เนื่องจาก SUN มีผลการดำเนินงานขาดทุนสะสมอยู่ราว 144 ล้านบาท โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาวิธีการในการล้างขาดทุนสะสม ซึ่งบริษัทคาดว่าจะใช้ระยะเวลาประมณ 2 ปี ในการล้างขาดทุนสะสม
ด้านแผนงานในปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายเติบโต 10% จากปี 57 ที่ 3.45 พันล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิคาดว่าเติบโตทิศทางเดียวกับยอดขาย โดยในปี 57 มีกำไรสุทธิที่ 137.03 ล้านบาท อีกทั้งคาดว่าอัตรากำไรสุทธิ (Net profit margin) ในปีนี้จะเพิ่มสูงขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ในระดับ 5.23% เป็นผลจากช่องทางของบริษัทที่มีอำนาจต่อรองสูงขึ้น
"ปีนี้มั่นใจว่าจะทำให้ผลประกอบการยังเติบโตได้ทิศทางเดียวกับยอดขายที่เราตั้งเป้าโต 10% ขณะที่เราเป็นอันดับหนึ่งในตลาดยอดขายกล้อง ส่วน Net profit margin ก็คาดว่าอาจจะสูงขึ้น ซึ่งเป็นผลจากที่บริษัทสั่งซื้อสินค้าเน้นวอลุ่มซื้อเยอะทำให้มีอำนาจต่อรองสูง และเมื่อเรามาขายมาร์จินก็จะดี จุดเด่นของบริษัทคือเป็นร้านค้าปลีก จัดจำหน่ายอุปกรณ์ถ่ายภาพครบวงจร มีครบทุกแบรนด์ และมีร้านบิ๊กโมบายแยกออกมาขายมือถือ เป็นศูนย์รวมครบวงจร(One Stop Service) เรามั่นใจว่ากล้องถ่ายภาพไม่มีจุดอิ่มตัว แม้ว่านักวิเคราะห์จารณาหลายบางคนบอกธุรกิจกล้องจะแย่เพราะมีสมาร์ทโฟนมาแชร์ แต่ผมมองเป็นการเอื้อกันมากกว่า"นายธนสิทธิ์ กล่าว
ส่วนงบลงทุนรวมในปีนี้ตั้งไว้ที่ 100 ล้านบาท แบ่งเป็น 40 ล้านบาทใช้ขยายสาขา Big Camera เพิ่มอีก 10 แห่งและปรับปรุงสาขาเดิม จากปัจจุบันมีร้าน Big Camera อยู่ที่ 237 สาขา ส่วนอีก 50 ล้านบาทเป็นงบการตลาดประชาสัมพันธ์ ส่วนสาขา Big Mobile จำหน่ายอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือปัจจุบันมี 19 สาขา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะเปิดสาขาเพิ่มหรือไม่ โดยปัจจุบัน Big Mobile มียอดขายไม่เกิน 2% ของยอดขายรวม