ทั้งนี้ ยอมรับว่า บพ.มีขีดจำกัดด้านบุคลากรจริง ทั้งปริมาณและคุณภาพ โดยมีเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอและผ่านการอบรมจาก ICAO น้อยในขณะที่ ปริมาณงานมีการเปลี่ยนไปจากเดิม เมื่อปี 2548 ที่มีสายการบินจดทะเบียนเพียง 12 สาย แต่ปัจจุบันมีถึง 61 สายการบินและทำการบินต่อเนื่องถึง 41 สายการบิน ภาระงานเพิ่มขึ้น 5 เท่าแต่กำลังคนมีแค่ 4 คน ทำให้ดูแลไม่ไหว ประกอบกับงบประมาณมีจำกัด ทำให้การดำเนินงานในเรื่องจัดระบบเอกสาร หรือ IT Data Base ไม่เสร็จ
ดังนั้น จึงต้องมีการแก้ไขบทบาทหน้าที่ของ บพ. ให้สอดคล้องกับหลักสากล โดยแยก งานด้านนโยบาย ,กำกับดูแล (Regulator) และ ปฎิบัติการ (Operator) ออกจากกันให้ชัดเจนและ ปรับปรุงกฎหมายทั้งหมด ให้สอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศและเป็นสากลมากขึ้น ส่วนการพัฒนาบุคลากรนั้นจะขอเพิ่มอัตรากำลังพร้อมทั้งงบประมาณในการจัดจ้างเข้ามาดูแลในช่วงวิกฤติและระยะกลาง ส่วนระยะยาวจะมีการพัฒนาคนขึ้นมารองรับ
พล.อ.อ.ประจินกล่าวว่า การแยกบทบาทหน้าที่ของบพ.นั้น ช่วงแรกกระทรวงคมนาคมจะรับงานบางส่วนของ บพ.มาดูแล โดยยกระดับขึ้นมาอยู่ภายใต้กระทรวง เช่น งานวิเคราะห์สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ เป็นต้น โดยช่วงเปลี่ยนผ่านได้ตั้งคณะกรรมการชั่วคราว ในงานด้านกำกับดูแล (Regulator) มีนายชัยศักดิ์ อังค์สุวรรณ อดีตรองปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน และ งานด้านกฎระเบียบ มีนายสมชาย พิพุธวัฒน์ อธิบดีกรมการบินพลเรือน (บพ.) เป็นประธาน และในอนาคต บพ.จะต้องปรับบทบาทตัวเองใหม่ แยกให้ชัดเจน เช่น แยกหน้าที่ Operator ออก ที่เป็นงาน Regulator จะเป็นงานอะไรบ้าง เกี่ยวกับความปลอดภัยจะดูแลอะไรบ้าง