บลจ.ยูโอบี เสนอขายกองทุนใหม่เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทน 5 ตลาดหุ้นทั่วโลก

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday March 6, 2015 11:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) นำเสนอ กองทุนเปิด ยูโอบี ซีเล็ค โกลบอล คอมเพล็กซ์ รีเทิร์น เอไอ ฟันด์ (UOBSGCR) ลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดีทั่วโลกและลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับ 5 ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลก กองทุนจะพิจารณาเงื่อนไขการจ่ายผลตอบแทนทุก 6 เดือน รวมทั้งหมด 6 ครั้ง หากดัชนีอ้างอิงทั้งหมดมีอัตราการเติบโตมากกว่าหรือเท่ากับ 10% เมื่อเทียบกับวันจดทะเบียนกองทุน ผู้ถือหน่วยลงทุนจะได้รับผลตอบแทนตามเงื่อนไข* กองทุนจะเสนอขายครั้งแรกและครั้งเดียวระหว่างวันที่ 5 - 18 มีนาคม 2558 ผ่านธนาคารยูโอบี และผู้สนับสนุนการขายหรือรับซื้อคืนที่ บลจ.แต่งตั้ง

นางสาวณัชชา สุนทรธาราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ สายพัฒนาธุรกิจ บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย)กล่าวว่า กองทุน UOBSGCR จะนำเงินไปลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพสูงทั่วโลกประมาณร้อยละ 90 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และส่วนที่เหลือไม่เกินร้อยละ 10 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน เพื่อลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) ได้แก่ สัญญาออปชั่น (Option) ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับสินทรัพย์ต่างๆ ที่กองทุนอ้างอิง

ทั้งนี้ กองทุน UOBSGCR จะพิจารณาเงื่อนไขการจ่ายผลตอบแทนทุก 6 เดือน รวมทั้งหมด 6 ครั้ง หากสินทรัพย์อ้างอิงทั้ง 5 ชนิด เพิ่มขึ้นมากกว่าหรือเท่ากับ 10% เทียบกับสินทรัพย์อ้างอิงตัวนั้น ๆ เมื่อวันจดทะเบียน จะถือว่าเป็นไปตามเงื่อนไขการจ่ายผลตอบแทน* แต่ในกรณีที่ไม่เข้าเงื่อนไขดังกล่าว ผู้ถือหน่วยลงทุนยังคงมีโอกาสได้รับคืนเงินต้นเต็มจำนวนจากที่กองทุนได้ลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพสูงทั่วโลก

"ยูโอบีเล็งเห็นโอกาสที่เศรษฐกิจทั่วโลกมีแนวโน้มการขยายตัวในระดับที่ดี รวมถึงมาตรการผ่อนคลายทางการเงินจากธนาคารกลางของทั่วโลก ที่จะเป็นปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของตลาดหุ้นทั่วโลก จึงได้นำเสนอกองทุน UOBSGCR ซึ่งเหมาะกับนักลงทุนกลุ่มที่มีเงินลงทุนสูง (Accredited Investor) ที่ต้องการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนจากการเติบโตของตลาดหุ้นทั่วโลก อย่างไรก็ตาม หากกองทุนไม่เป็นไปตามเงื่อนไขดังกล่าว นักลงทุนยังคงมีโอกาสได้รับเงินต้นเต็มจำนวน"นางสาวณัชชา กล่าว

สำหรับสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับ 5 ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลก ได้แก่ ดัชนี DAX ของเยอรมัน, ดัชนี NIKKEI ของญี่ปุ่น, ดัชนี S&P500 ของสหรัฐฯ, ดัชนี TWSE ของไต้หวัน และดัชนี HSI ของฮ่องกง

บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) มีมุมมองบวกต่อตลาดหุ้นทั่วโลก จากมาตรการผ่อนคลายทางการเงินจากธนาคารกลางยุโรป และธนาคารกลางญี่ปุ่นที่มีการเพิ่มปริมาณเงินเข้าสู่ระบบการเงินทั่วโลกรวมกันกว่า 123,000 ล้านเหรียญสหรัฐต่อเดือน ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลก โดยดัชนี DAX ของเยอรมัน จะได้รับผลดีโดยตรงจากมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน ต้นทุนทางการเงินที่ต่ำในยูโรโซนจะสนับสนุนให้กำไรบริษัทจดทะเบียนมีแนวโน้มขยายตัวสูงจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยุโรป

เช่นเดียวกับ ดัชนี NIKKEI ของญี่ปุ่น ได้รับผลบวกจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจากนโยบาย Abenomics รวมทั้งการปรับสัดส่วนลงทุนในหุ้นเพิ่มเติมของกองทุนบำนาญแห่งชาติ ส่วนดัชนี S&P500 ของสหรัฐฯ มีแนวโน้มเติบโตได้จากการที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง อัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับที่ต่ำ และผลประกอบการบริษัทโดยรวมยังคงขยายตัวในระดับสูง

ด้านดัชนี TWSE ของไต้หวันได้รับผลบวกจากการขยายตัวของทั้งสหรัฐฯ และจีน กำไรบริษัทจดทะเบียนมีแนวโน้มขยายตัวได้ดีจากการขยายตัวของกลุ่มเทคโนโลยี และดัชนี HSI ของฮ่องกง นั้นได้รับประโยชน์จากนโยบายผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลางจีน และอัตราดอกเบี้ยในประเทศที่อยู่ในระดับต่ำต่อไปนั้นจะช่วยสนับสนุนการลงทุนในตลาดหุ้นฮ่องกง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ