โครงการนี้ใช้เวลากว่า 8 เดือน ในการศึกษาวิเคราะห์สถานการณ์และพฤติกรรมทางการเงินของคนไทย ซึ่งมีข้อมูลชี้ชัดว่าคนไทยยังไม่ให้ความสำคัญในการจัดการทางการเงิน มีเพียงร้อยละ 25 ของผู้มีเงินออมเท่านั้นที่วางแผนการออมเพื่อการเกษียณอายุและออมเงินได้ตามแผนที่กำหนดไว้ แสดงว่าคนไทยส่วนใหญ่ยังจัดการการเงินของตนได้ไม่ดีพอ ทั้งเพื่อใช้จ่ายในปัจจุบันหรือในอนาคต ปัญหาเหล่านี้ไม่ได้กระทบเฉพาะในระดับบุคคล แต่กระทบไปถึงเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ประเทศไทยมีหนี้ครัวเรือนสูงระดับ 85% ของ GDP และกำลังจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งจะมีประชากรวัยเกษียณมากกว่าหนึ่งในห้าของประชากรไทย หากคนวัยเกษียณไม่มีความมั่นคงทางการเงินเพียงพอที่จะดูแลตัวเองได้ ย่อมทำให้ประเทศอ่อนแอ ต้องแบกรับภาระมากยิ่งขึ้น
ปัจจุบันคนไทยมีหนี้ครัวเรือนสูงถึงระดับ 85%ของจีดีพี หรือรวมเป็นเงิน 10 ล้านล้านบาท หรือเฉลี่ยคนละ 160,000 บาท เพราะคนไทยส่วนใหญ่ไม่ให้ความสำคัญในการจัดการทางการเงิน มีเพียงร้อยละ 25 ของผู้มีเงินออมเท่านั้นที่วางแผนการการออม แสดงว่าคนไทยส่วนใหญ่ยังจัดการการเงินของตนไม่ดีพอทั้งเพื่อการใช้จ่ายในปัจจุบันหรือในอนาคต
นายวรพล กล่าวว่า สาเหตุที่คนไทยไม่มีการจัดการการเงินเพราะ 5 ไม่ คือ 1.ไม่มีวินัยในชีวิต จับจ่ายใช้สอย มีเงินเดือนมาจ่ายหนี้ 2 ไม่มีทักษะความสามารถในการจัดการการเงิน 3.ไม่มีผลิตภาพขณะที่ไทยจะเข้าเป็นสังคมผู้สูงอายุ ในปี 2568 จะมีประชากรสูงอายุในสัดส่วน 20%ซึ่งจะเป็นปัญหาใหญ่ 4. ไม่มีเงินพอใช้ในยามเกษียณจะเป็นคนแก่ที่จนซึ่งจะลำบากจึงควรเตรียมการให้ดี แล 5. ไม่มีใครสนใจเรื่องนี้เลย
ดังนั้น โครงการ"จัดการเงินเป็น อนาคตปึ๊ก"แนะนำให้คนไทยวางแผนการเงินของตัวเองโดยใช้หลักเป็น 3 ประการคือ ลดรายจ่าย , เก็บก่อนใช้และ แบ่งไปลงทุน โดยโครงการนี้มุ่งเป้าหมายไปกลุ่มคนทำงานเริ่มต้น วัยกลุ่ม 20-30 ปี
นายวรพล กล่าวว่า โครงการนี้ต้องการให้คนไทยตระหนักรู้ ลดรายจ่ายไม่จำเป็น และเก็บก่อนใช้ อีกทั้งแบ่งไปลงทุนโดยควรลงทุนสิ่งที่ให้ผลตอบแทนไม่น้อยกว่า5% เพราะอัตราเงินเฟ้อของไทยอยู่ที่ 3-4% และโครงการนี้จะออกทำแคมเปญและสื่อโฆษณาถึงเดือนพฤษภาคมนี้และจะมีการสำรวจผลตอบสนองอีกครั้ง เรื่องนี้ก.ล.ต.จะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
"เรารู้ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ของง่าย ต้องใช้เวลาต่อเนื่อง เราหวังว่าจะจุดประกายให้คนไทยได้ฉุกคิด ที่ทำโครงการนี้เพราะเราตกใจเมื่อเห็นตัวเลขหนี้ครัวเรือนที่สูงมากและแนวโน้มจะไปถึง 86-87% ซึ่งน่าตกใจ" เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าว