(เพิ่มเติม) SCC มองธุรกิจปิโตรเคมีจะดีจนถึงปี 60-61 เชื่อ supply ใหม่เข้ามาไม่มาก

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday March 25, 2015 19:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) คาดว่าธุรกิจปิโตรเคมีจะปรับตัวดีขึ้นในปีนี้และดีไปจนถึงปี 60-61 เนื่องจากปริมาณการผลิต(Supply)ใหม่ในตลาดโลกมีไม่มาก แม้ว่าในช่วง 2 เดือนแรก(ม.ค.-ก.พ.) และ 2 สัปดาห์แรกของเดือนมี.ค.นี้ ราคาผลิตภัณฑ์
ปิโตรเคมีจะลดลง 24-25% และอาจจะทำให้ยอดขายธุรกิจปิโตรเคมีลดลง แต่ไม่ห่วงเรื่องกำไร

ขณะที่แผนการลงทุนโรงงานผลิตปูนซีเมนต์ในต่างประเทศยังเดินหน้าต่อเนื่อง โดยโรงงานปูนซีเมนต์ในประเทศเมียนมาร์คาดว่าจะเริ่มผลิตได้ในครึ่งหลังปี 59 และในประเทศลาวจะเริ่มผลิตได้ในปี 60

ส่วนผลประกอบการปีนี้อาจบันทึกค่าเสื่อมราคาประมาณ 4 พันล้านบาทจากโรงงานปูนซีเมนต์ใหม่ 2 แห่งที่จะเริ่มผลิตได้ และโรงงานกระดาษแห่งใหม่ อย่างไรก็ดี คาดว่ากำไรในปีนี้น่าจะไม่รับผลกระทบมากนัก เพราะมียอดขายและกำไรดีจากการลงทุนในกลุ่มประเทศอาเซียน

นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ SCC กล่าวว่า ธุรกิจปิโตรเคมีปีนี้จะยังคงมีมาร์จิ้นที่ดี โดยในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ แม้ว่าราคาผลิตภัณฑ์หลักจะลดลง 24-25% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนตามราคาน้ำมันที่ลดลง แต่ในส่วนของ มาร์จิ้นนับว่าดีมากหลังราคาผลิตภัณฑ์ปรับลงน้อยกว่าราคาแนฟทา ซึ่งเป็นวัตถุดิบ ส่งผลให้มาร์จิ้นในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้อยู่ในระดับเกือบ 700 เหรียญสหรัฐ/ตัน และยังมีมาร์จิ้นที่ดีจากการผลิตสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่ม(HVA) มากขึ้นด้วย ประกอบกับในปีนี้บริษัทจะเดินเครื่องผลิตจากโรงงานปิโตรเคมีเต็มที่ด้วย

นอกจากนี้ในส่วนของธุรกิจพีวีซี ก็นับว่ามีมาร์จิ้นที่ดีเกินคาด หลังจากที่มาร์จิ้นตกต่ำในปีที่ผ่านมา โดยมาร์จิ้นของพีวีซี ในช่วง 2 เดือนแรกปีนี้อยู่ระดับ 380 เหรียญสหรัฐ/ตัน จากราว 320 เหรียญสหรัฐ/ตันในปลายปีก่อน เป็นผลจากเอทิลีน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวัตถุดิบในการผลิตพีวีซีนั้นมีราคาลดลง ขณะที่ปีนี้กลุ่มบริษัทยังจะได้รับประโยชน์จากการจะเริ่มเดินเครื่องผลิตของโรงงาน VCM ส่วนขยายของบมจ.ไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์(TPC) ที่ถูกศาลปกครองสูงสุดระงับไปก่อนหน้านี้จากคดีมาบตาพุด โดยโรงงาน VCM ส่วนขยายจะเริ่มเดินเครื่องผลิตในเดือนเม.ย.

ขณะที่คาดว่าธุรกิจปิโตรเคมีจะยังคงมีวัฎจักรที่ดีต่อเนื่องจนถึงช่วงปี 60-61 เพราะกำลังการผลิตใหม่ที่เข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้นเพียง 3-4% ของกำลังผลิตรวมทั่วโลก ส่วนความคืบหน้าโครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ในเวียดนาม คาดว่าจะสรุปมูลค่าการลงทุนได้ชัดเจนในช่วงไตรมาส 2/58 จากเดิมที่คาดว่าจะมีมูลค่าลงทุนเบื้องต้น 4.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ

สำหรับธุรกิจปูนซีเมนต์นั้น คาดว่าจะมีการทบทวนเป้าหมายความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ในปีนี้ใหม่จากเดิมที่คาดโต 5-6% หลังในช่วงไตรมาส 1/58 ความต้องการใช้หดตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะในช่วง 2 เดือนแรกปีนี้ความต้องการใช้ลดลง 2-3% ตามภาวะเศรษฐกิจ แต่ก็เริ่มมีแนวโน้มดีขึ้นในช่วงเดือนมี.ค. หลังเริ่มมีงบประมาณจากภาครัฐออกมาและหลังจากนี้น่าจะเริ่มดีขั้นเรื่อยๆ ขณะที่มองการแข่งขันธุรกิจปูนซีเมนต์ในประเทศจะไม่มากนัก แม้ว่าโรงปูนซีเมนต์แห่งที่ 4 ของบมจ.ทีพีไอ โพลีน(TPIPL) จะเริ่มผลิตในช่วงกลางปีนี้ก็ตาม

อย่างไรก็ตามหากแนวโน้มความต้องการใช้ในประเทศไม่เติบโตอย่างที่คาด ก็ยังมีตลาดส่งออกที่ช่วยรองรับได้ โดยเฉพาะ ในอาเซียนที่ยังเติบโตได้ดี รวมถึงตลาดบังคลาเทศที่ยังขยายตัวด้วย

"เดิมซีเมนต์ปีนี้เราคาดโต 5-6% แต่ดูแล้วต้นปีแผ่วเล็กน้อย รัฐบาลก็กำลังแก้ไขผลักดันงบภาครัฐออกมา...Q1 ความต้องการใช้ซีเมนต์คงจะติดลบนิดหน่อย ครึ่งปีหลังน่าจะดีขึ้น ทั้งปีนี้เป็นบวกแน่นอน"นายกานต์ กล่าว

นายกานต์ คาดอีกว่ายอดขายรวมของบริษัทในปีนี้จะทำได้ใกล้เคียงปีก่อนที่อยู่ระดับ 4.87 แสนล้านบาท หลังยอดขายของธุรกิจปิโตรเคมี ซึ่งมีสัดส่วนราว 51% ของยอดขายรวมจะลดลงไปตามราคาผลิตภัณฑ์ที่ลดลงจากราคาน้ำมัน ส่วนธุรกิจซีเมนต์ ยังต้องรอดูความชัดเจนจากงบประมาณการลงทุนของภาครัฐที่จะออกมาด้วย แต่ในเบื้องต้นธุรกิจวัสดุก่อสร้างและกระดาษ ยังคง เติบโตได้ดี ขณะที่ตลาดส่งออกโดยเฉพาะในอาเซียน ยังคงขยายตัวได้ดีเช่นกัน

"เราคงจะทำให้ bottom line ค่อนข้างโอเค เพราะอาเซียนดีมาก...กำไรอาจจะมีเรื่องค่าเสื่อมบ้างราว 4 พันล้านบาท จากโรงงานปูนซีเมนต์ 2 แห่งและโรงงานกระดาษแห่งใหม่ แต่โดยรวมน่าจะยังโอเค"นายกานต์ กล่าว

นายกานต์ กล่าวว่า ปีนี้เตรียมจะเปิดโรงงานปูนซีเมนต์แห่งที่ 2 ในกัมพูชา และโรงงานปูนซีเมนต์ในอินโดนีเซีย ส่วนในปีหน้าจะเปิดโรงงานปูนซีเมนต์ในเมียนมาร์ ขณะที่โรงงานปูนซีเมนต์ในลาวจะเริ่มผลิตได้ในปี 60

สำหรับงบลงทุนในช่วง 5 ปียังคงเป้าหมายอยู่ที่ระดับ 2.5 แสนล้านบาท โดยในปีนี้คาดว่าจะใช้เงินลงทุนมากกว่า 5 หมื่นล้านบาท โดยไม่นับรวมการเข้าร่วมลงทุนหรือซื้อกิจการ(M&A) ซึ่งคาดว่าจะมีในปีนี้เช่นกัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ