(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับตัวลงตามตลาดภูมิภาคหลัง GDP สหรัฐฯต่ำกว่าคาดมาก

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday April 30, 2015 09:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวลง ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนลบในช่วงเช้านี้ ภายหลังจากที่ตัวเลข GDP งวดไตรมาส 1/58 ของสหรัฐฯออกมาขยายตัวได้ต่ำกว่าคาดมาก ซึ่งแสดงให้เห็นถึง Earing ที่ไม่ดี ก็เลยมีการขายหุ้นออกมา และทำให้เห็นว่าราคาหุ้นก็ไม่ถูกด้วย

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนสามารถเลือกเล่นเป็นรายตัวได้ โดยหุ้นในกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมี ยังได้รับผลบวกจากราคาน้ำมันที่ทรงตัวสูง และกลุ่ม Consumer, ไฟแนนซ์ และหุ้นที่มีปันผลดี ก็จะได้รับประโยชน์จากดอกเบี้ยที่ลดลง ส่วนกลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ ก็ได้ผลบวกจากเงินบาทอ่อนค่า ด้านกลุ่มแบงก์คาดว่าจะยังปรับตัวลงอยู่ เนื่องจากยังไม่มั่นใจการส่งออก ซึ่งการแก้ไขปัญหาคงจะต้องไปดูที่ประเทศคู่ค้าด้วย อย่างไรก็ดี ยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายสนับสนุน

พร้อมให้แนวรับ 1,505-1,515 จุด ส่วนแนวต้าน 1,530-1,540 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(29 เม.ย.58)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 18,035.53 จุด ลดลง 74.61 จุด(-0.41%), ดัชนี
NASDAQ ปิดที่ 5,023.64 จุด ลดลง 31.78 จุด(-0.63%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,106.85 จุด ลดลง 7.91 จุด(-0.37%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 211.45 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 6.39 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 111.20 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 12.68 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 7.69 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 14.04 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 2.64 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(29 เม.ย.58)1,522.47 จุด ลดลง 9.06 จุด(-0.59%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,912.92 ล้านบาท เมื่อวันที่ 29 เม.ย.58
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(29 เม.ย.58) ปิดที่ 58.58 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.52 ดอลลาร์
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(29 เม.ย.58)ที่ 7.97 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 32.88/95 อ่อนค่าต่อเนื่อง มีโอกาสทดสอบระดับ 33 บาท
  • ธปท.เตรียมประกาศมาตรการหนุน บาทอ่อนค่า ขณะมติกนง. 5 ต่อ 2 ลดดอกเบี้ย 0.25% เซอร์ไพรส์ตลาด ส่งผลดอกเบี้ยนโยบายเหลือ 1.5% ต่ำสุดรอบ 4 ปี 9 เดือน ยอมรับเศรษฐกิจไตรมาสแรกอ่อนแอกว่าคาด ทั้งมีความเสี่ยงเงินฝืดเพิ่ม ส่วนเงินบาทอ่อนค่ารอบ 6 สัปดาห์
  • "สุนชัย คำนูณเศรษฐ์" ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยแผนลงทุนว่า จะสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าประเทศ พ.ศ. 2558-2579 (PDP 2015) โดยจะเป็นโรงไฟฟ้าถ่านหิน 9 แห่ง กำลังผลิตรวม 7,365 เมกะวัตต์
  • พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม กล่าวหลังประชุมเตรียมการก่อนร่วมหารือการลงทุนโครงการรถไฟทางคู่ไทย-จีน ครั้งที่ 4 ที่คุนหมิง ประเทศจีน วันที่ 6-8 พ.ค. 2558 ว่า ได้สรุปความก้าวหน้าในการสำรวจออกแบบและความร่วมมือในการดำเนินงานและการลงทุน การจัดเตรียมบุคลากรเพื่อรับการ ฝึกอบรมและถ่ายทอดเทคโนโลยี
  • ผลสำรวจ "ซีอีโอ" บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์-ตลาดเอ็ม เอ ไอ ระบุ เศรษฐกิจไทยช่วง 6 เดือนแรกปีนี้มีแนวโน้มดีขึ้น คาดทั้งปีเติบโต 2-3% ส่วนรายได้ของบริษัทจดทะเบียนเติบโต 6-9% พร้อมย้ำปัจจัยสนับสนุน-ปัจจัยเสี่ยงจากภายในประเทศ มีผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจมากกว่าปัจจัยภายนอกประเทศ
  • สำนักงานเศรษฐกิจการคลังลดเป้าจีดีพีปีนี้จากเดิม 3.9% เหลือ 3.7% โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ 3.2-4.2% ยอมรับแม้การท่องเที่ยวที่ดีขึ้น การใช้จ่ายภาครัฐมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากมาตรการเร่งรัดการเบิกจ่าย แต่การส่งออกสินค้าของไทยในปีนี้จะยังคงมีข้อจำกัด

*หุ้นเด่นวันนี้

  • กลุ่มลิสซิ่ง(ฟินันเซีย ไซรัส)ได้รับประโยชน์จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยหากพิจารณาจากโครงสร้างการระดมทุน พบว่า MTLS ("ซื้อ"เป้า 25 บาท) และ SAWAD ("ขาย"เป้า 41 บาท) จะได้รับประโยชน์สูงสุดเนื่องจากมีเงินกู้ยืมระยะสั้นในอัตราส่วนมากที่สุดในกลุ่มราว 90% รองลงมาเป็น GL ("ซื้อ"เป้า 15 บาท) ขณะที่ KTC SINGER และ ASK เป็นกลาง ส่วน TK ("ขาย") จะได้รับประโยชน์น้อยที่สุดเนื่องจากมีการระดมทุนเป็นระยะยาวมากกว่าระยะสั้นที่ราว 70%
  • ERW(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 5.70 บาท คาดกำไรปกติ 1Q15 ของ ERW เติบโตก้าวกระโดด 168.4% Q-Q และ 4,384% Y-Y จากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวโดดเด่นและเป็นช่วง Peak Season แม้แนวโน้ม 2Q15-3Q15 จะชะลอจากปัจจัยฤดูกาลแต่ฟื้นตัวอย่างมีนัยยะจากปีก่อนที่ขาดทุนแรงจากปัญหาการเมือง เรายังคงประมาณการกำไรปกติปีนี้ที่ 277 ลบ. พลิกจากขาดทุน 170 ลบ. ในปีก่อน การตั้งกอง REIT ถือเป็นอีกหนึ่ง Catalyst
  • SCC(เคทีบี)"ซื้อ"เป้า 610 บาท กำไรสุทธิ 1Q58 ดีกว่าตลาดคาดไว้ 10% โดยมีกำไรสุทธิ 11,073 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 25%qoq และ 32%yoy เป็นผลจากการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของธุรกิจหลัก โดยเฉพาะปูนซิเมนต์-วัสดุก่อสร้างและปิโตรเคมี นอกจากนี้ SCC ยังมีกำไรพิเศษจากการขายหุ้นของบริษัทสยามมิชลินอีก 1,485 ล้านบาท ส่วนแนวโน้มกำไรสุทธิใน 2Q58 คาดธุรกิจหลักยังเติบโตต่อเนื่อง จากภาพรวมในระยะสั้นที่ยังดีโดยปิโตรฯได้แรงหนุนจากส่วนต่างผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น ธุรกิจปูนซีเมนต์ได้อานิสงส์จากโครงการภาครัฐที่เริ่มก่อสร้างและทยอยเปิดประมูล ส่วนระยะยาวมี Growth Story จากกำลังการผลิตใหม่ที่ทยอยเปิดดำเนินการ
  • KCE(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เป้า 55 บาท ประมาณการว่ากำไรสุทธิปีนี้จะขยายตัวแกร่ง 20% ซึ่งมาจากกำลังการผลิตและมาร์จิ้นที่ดีขึ้น โดยระยะสั้นบริษัทได้รับอานิสงค์ทางบวกจากค่าเงินบาทที่อ่อนตัว ซึ่งเป็นผลจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายและการออกมาตรการผ่อนคลายเงินทุนไหลออกของธปท. และการขยายกำลังการผลิตเป็นไปตามแผน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ