SUPER-W3 ปิดเทรดวันแรกที่ 0.38 บาท มูลค่าซื้อขาย 63.50 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 0.29 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 0.41 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 0.29 บาท
ขณะที่หุ้น SUPER ปิดที่ 2 บาท ลดลง 0.08 บาท(-3.85%) มูลค่าซื้อขาย 78.24 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 2.08 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 2.10 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 1.99 บาท
บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯประเมินมูลค่าที่เหมาะสมของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.ซุปเปอร์บล๊อก(SUPER)ใช้ชื่อย่อว่า SUPER-W3 คาดว่าจะมี All-in Premium +118.5% เนื่องจากสถานะที่ใกล้เคียงกับจุด Out of The Money เนื่องมาจากความผันผวนของหุ้นที่สูงมากถึง 83.46% จากการเก็งกำไรเรื่องธุรกิจพลังงานทางเลือก พร้อมทั้งไม่มีประวัติการจ่ายเงินปันผล ในด้านการเก็งกำไรเรามองว่า SUPER-W3 ควรลงทุนอย่างระมัดระวังเนื่องจากมูลค่าตามเวลาที่สูงจากความผันผวนทำให้หากอายุของใบสำคัญแสดงสิทธิลดลงจะทำให้มูลค่าของใบสำคัญแสดงสิทธิลดลงเร็ว
จากการประเมินมูลค่าที่เหมาะสมด้วยวิธี BSM อ้างอิงราคาปิดที่ 2.08 บาท (21 พ.ค.) จะได้มูลค่าที่เหมาะสมของ SUPER-W3 ที่ 0.54 บาท พร้อมให้กรอบมูลค่าเหมาะสมของ SUPER-W3 ไว้ที่ 0.50-0.60 บาท เมื่อราคาหุ้น SUPER เคลื่อนไหวในกรอบ 2.00-2.20 บาท โดยมี Volatility 83% per year
SUPER ประกอบธุรกิจในการลงทุนถือหุ้นในกิจการอื่น(Holding Company) โดยได้ลงทุนในธุรกิจหลัก 2 ธุรกิจ คือ1.ธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนโดยเฉพาะการลงทุนและพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (โซล่าฟาร์ม) และบริษัทยังมีนโยบายที่จะขยายขอบเขตของธุรกิจไปที่ ธุรกิจบริการรับเหมาก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบครบวงจร(EPC) และ ธุรกิจบริการด้านการปฏิบัติการ การบำรุงรักษา และการประมวลผลโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์(OMM) อีกด้วยในอนาคต2.ธุรกิจด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Information & Communications Technology)
SUPER-W3 จำนวนที่ออก 2,014.78 ล้านหน่วย จัดสรรให้แก่ผู้ซื้อหุ้นเพิ่มทุนในอัตราส่วน 20:1:2 ที่ราคา 1.7 บาท (ขึ้น XRW 20 ม.ค. 2015 โดย 20 หุ้นเดิมได้ 1 หุ้นเพิ่มทุน และ 1 หุ้นเพิ่มทุนได้ 2 ใบสำคัญแสดงสิทธิ) อัตราใช้สิทธิ 1 : 1 @ 4 บาท, อายุ 1.92 ปี กำหนดให้ใช้สิทธิได้ทุกวันทำการสุดท้ายของเดือน ก.พ., พ.ค., ส.ค. และ พ.ย. (โดยใช้สิทธิได้ครั้งแรกคือวันที่ 29 ก.พ. 2016 และใช้สิทธิได้ครั้งสุดท้ายในวันหมดอายุคือวันที่ 31 มี.ค. 17)