ผจก.กองทุนในประเทศมองแนวโน้ม SET Index ครึ่งปีหลังได้ลงทุนภาครัฐหนุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday June 22, 2015 15:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บลจ.ธนชาต กล่าวในการสัมมนา"กองทุนมองหุ้นไทยจะย่อหรือไปไตรมาส 3 และสร้างพอร์ตแกร่ง ด้วยกองทุนหุ้น"ว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยช่วงครึ่งปีหลังนี้มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก โดยมองกรอบการเคลื่อนไหวดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย(SET Index)ในปีนี้ที่ 1,500-1,600 จุด คาดว่าจะไม่ต่ำไปกว่า 1,470 จุด เนื่องจากตลาดฯจะได้รับปัจจัยหนุนหลังภาครัฐฯเริ่มมีความชัดเจนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและโครงการต่างๆ เพิ่มมากขึ้น คาดว่าน่าจะมีเริ่มมีการประมูลโครงการใหม่เกิดขึ้นหลายๆโครงการในระยะเวลาต่อจากนี้

ส่วนภาคท่องเที่ยว ปัจจุบันไม่ได้รับผลกระทบจากไวรัสเมอร์ส โดยจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยวมีจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ในช่วงที่ผ่านมาข่าวการระบาดของไวรัสเมอร์ส และล่าสุดการพบผู้ติดเชื้อรายแรกในประเทศไทย ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่มองว่าจะเป็นผลกระทบต่อจิตวิทยาการลงทุนระยะสั้น เพราะเชื่อว่ากระทรวงสาธารณสุขไทยจะสามารถควบคุมสถานการณ์ดังกล่าวได้

ขณะที่การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายถึง 2 ครั้งติดต่อกันของคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)เป็นผลดีที่จะช่วยกระตุ้นการบริโภคของประชาชน ในขณะเดียวกันยังส่งดีต่อค่าเงินบาท ทำให้ปรับตัวอ่อนค่าลงมาในช่วงที่ผ่านมา และจะเป็นผลดีต่อการส่งออกในครึ่งปีหลังด้วย

นายบุญชัย แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ให้นักลงทุนเลือกลงทุนในหุ้นรายตัวที่ได้รับผลดีจากการท่องเที่ยว และการลงทุนในโครงการขนาดใหญาของภาครัฐที่กำลังจะเกิดขึ้น

ด้านนายพงษ์พิเชษฐ์ นานานุกุล กรรมการผู้จัดการ บลจ.กสิกรไทย กล่าวว่า ทิศทางการลงทุนในตลาดหุ้นไทย มองว่าแนวโน้มการลงทุนในช่วงครึ่งปีหลังจะปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากจะมีโครงการภาครัฐฯเข้ามาสนับสนุน

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มตลาดในระยะสั้นนี้ อาจจะได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคเมอร์สที่เริ่มพบผู้ติดเชื้อรายแรกในประเทศไทย รวมถึงปัญหาที่องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ(ICAO)ติดธงแดงประเทศไทยในเว็บไซด์ รวมถึงยังมีปัจจัยเสี่ยงในเรื่องของรัฐธรรมนูญและกรอบระยะเวลาเลือกตั้งที่ยังไม่ชัดเจน

ทั้งนี้ มองว่าจังหวะที่ดัชนีปรับตัวลดลงในระยะสั้นถือเป็นโอกาสซื้อสะสมเพื่อลงทุนในระยะยาวอย่างน้อย 1-2 ปี โดยมองว่าแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในระยะยาวยังน่าสนใจ โดยให้เป้าหมายของ SET Index ณ สิ้นปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 1,650 จุด บนค่า P/E ที่ 16-17 เท่า และคาดกำไรบริษัทจดทะเบียนในปี 58 จะเติบโตได้ราว 15-20% จากฐานต่ำของปีก่อน

"การลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาวหรือ LTF ยังเป็นที่น่าสนใจ เพราะมองว่าทางภาครัฐฯจะมีการต่ออายุของกองทุนรวม LTF ออกไปอีกสักพัก แต่อาจจะจำกัดการลดหย่อนให้ลดลง เพื่อลดการใช้ LTF เป็นโอกาสในการเลี่ยงภาษี"นายพงษ์พิเชษฐ์ กล่าว

นายพงษ์พิเชษฐ์ กล่าวว่า บริษัทมั่นใจปีนี้มูลค่าทรัพย์สินสุทธิภายใต้การจัดการ(AUM)ในปีนี้จะสูงขึ้นมาที่ 1.2 ล้านล้านบาทตามเป้าหมาย หลังจากในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาสามารถผลักดัน AUM เพิ่มขึ้น 1.1-1.2 แสนล้านบาทไปแล้ว จาก AUM สิ้นปี 57 อยู่ที่ 1 ล้านล้านบาท

ช่วงที่เหลือของปีนี้บริษัทเตรียมออกกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์(REIT)เพิ่มเติมอีก แต่ขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดระยะเวลาในการออกกอง REIT ดังกล่าว เพราะยังต้องรอติดตามภาวะตลาดให้มีความเหมาะสมก่อน นอกจากนี้ ยังมีแผนออกกองทุนรวมต่างประเทศ (FIF)ด้วย เนื่องจากมองว่าตลาดต่างประเทศให้ผลตอบแทนดีกว่าในประเทศ ซึ่งตลาดที่น่าสนใจ ได้แก่ ญี่ปุ่น จากสภาพคล่องที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ