หุ้น SCB อยู่ที่ 154.50 บาท ลดลง 1.00 บาท(-0.64%)มูลค่าซื้อขาย 268.22 ล้านบาท
หุ้น BBL อยู่ที่ 177.00 บาท ลดลง 1.00 บาท(-0.56%)มูลค่าซื้อขาย 116.70 ล้านบาท
บล.บัวหลวง ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า กลุ่มแบงก์ ได้พบผู้บริหารธ.กรุงไทย(KTB)และธ.ไทยพาณิชย์(SCB) เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา พบแนวโน้มเหมือนธ.กสิกรไทย(KBANK) คือ ต้องตั้งสำรองเพิ่มจากแนวโน้มหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL) ที่ขยับขึ้น ทำให้กำไรสุทธิปี 2015-16 จะแย่ลงกว่าคาดการณ์เดิม จึงปรับราคาเป้าหมาย KTB และ SCB ลงเหลือ 19 บาท และ 188 บาท ตามลำดับ (ลงเฉลี่ย 9% จากเป้าหมายเดิม) โดยอิง PBV ที่ลดลงจากกำไรที่ปรับลง ส่วนคาดการณ์กำไร 2Q15 ของ KTB คาดอยู่ที่ 7.9 พันล้านบาท +4% y-y และทรงตัว q-q , SCB คาดกำไร 1.28 หมื่นล้านบาท -13% y-y และ -3% q-q
ด้านบล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย)ระบุว่า กลุ่มธนาคารพาณิชย์ ได้ปรับลดคาดการณ์กำไรปี 58F อีก 8-15% สะท้อนภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซายาวนานกว่าคาด ทำให้ NPL และการตั้งสำรองค่าเผื่อฯ เพิ่มขึ้น รวมถึงการเติบโตของสินเชื่อก็น้อยกว่าที่เคยประมาณการไว้ สำหรับผลประกอบการ 2Q58F คาดว่าจะอ่อนแอ เพราะมีการตั้งสำรองค่าเผื่อฯเพิ่มขึ้น และกำไรก่อนสำรองเติบโตไม่มาก จากสินเชื่อที่ขยายตัวได้จำกัดและรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเติบโตน้อย ส่วนภาพรวมทั้งปี 58F จึงมีการปรับลดประมาณการกำไรธนาคารพาณิชย์อีกรอบ ดังนี้
KTB : ปรับลดประมาณการกำไรปี 58F ลง 8% ปรับราคาพื้นฐานเป็น 18.50 บาท แนะนำถือ
SCB : ปรับลดประมาณการกำไรปี 58F ลง 10% ปรับราคาพื้นฐานเป็น 180 บาท แนะนำซื้อ
KBANK : ปรับลดประมาณการกำไรปี 58F ลง 15% ปรับราคาพื้นฐานเป็น 224 บาท แนะนำซื้อ
ในเชิงกลยุทธ์การลงทุน เน้นซื้อสะสมจังหวะอ่อนตัว โดย Sentiment ระยะสั้นยังไม่ดี แต่ในระยาวคาดว่าผลประกอบการของธนาคารจะสามารถพลิกฟื้นกลับขึ้นได้อย่างรวดเร็วเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว หุ้นแบงก์ที่ยังแนะนำ"ซื้อ"ประกอบด้วย KBANK, SCB และ BBL