NCH รับมีผู้สนใจซื้อเสนอกิจการ แต่ไม่มีนโยบายขาย, เดินหน้าหาพันธมิตร

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday July 3, 2015 17:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมเชาว์ ตันฑเทอดธรรม กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอ็น.ซี เฮาส์ซิ่ง (NCH) กล่าวถึงกรณีที่เมื่อวานนี้ราคาหุ้น NCH ราคาปรับตัวขึ้นแรง มองว่ามาจากการที่นักลงทุนอาจจะยังคงเก็งเรื่องการที่มีผู้ประกอบการรายอื่นให้ความสนใจจะเข้ามาซื้อกิจการของบริษัท แต่บริษัทยังไม่มีแผนการขายกิจการ แม้ว่าจะมีผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์หลายรายเข้ามาเจรจากับบริษัท

นอกจากนี้นักลงทุนบางส่วนอาจเห็นว่าหุ้น NCH ราคาถูกและต่ำกว่าราคาพาร์ที่ 2.03 บาท/หุ้น ทำให้มีการเข้ามาซื้อมากในเมื่อวานนี้ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าบริษัทจะยังไม่มีแผนการขายกิจการ แต่บริษัทยังคงเดินหน้าหาพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Partner) อยู่ตลอด ซึ่งอาจจะเป็นการเข้ามาถือหุ้นในบริษัทหรือการตั้งบริษัทร่วมทุน โดยปัจจุบันบริษัทได้เจรจากับพันธมิตรอยู่ 3-4 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นพันธมิตรในประเทศ แต่ยังไม่ทราบว่าจะมีความชัดเจนเมื่อใด "เรายืนยังว่ายังไม่ขายบริษัทออก และก็ไม่มีแผนที่จะขายออกเลย แต่ที่ผ่านมาก็มีคนที่ทำอสังหาฯหลายรายเข้ามาคุยจะขอซื้อบริษัทเรา แต่จริงๆแล้วเราอยากได้ Strategic Partner มากกว่า ที่จะช่วยเราได้ทั้งเทคโนโลยี Know-How และเงินทุน ซึ่งเราก็มีคุยๆอยู่ 3-4 ราย ส่วนใหญ่เป็นพันธมิตรในประเทศ แต่ก็ไม่รู้จะได้ข้อสรุปเมื่อไหร่ ปีนี้ก็อาจจะยังไม่เห็น แต่ถ้าเป็นพันธมิตรต่างประเทศเราก็อยากได้ที่เข้ามาร่วมทุนแบบ เอพีหรืออนันดามากกว่า ยืนยันว่าเราไม่ได้ปั่นหุ้นให้ราคาขึ้น คิดว่านักลงทุนคงยังเก็งเรื่องที่เราถูกซื้อและหุ้นเราก็ราคาต่ำกว่าพาร์ และผลการดำเนินงานของเราในปีนี้ก็ค่อนข้างดีกว่าปีที่แล้ว ส่วนจะมีใครมาถือหุ้นเราไหมก็ต้องรออีก เพราะคุยๆแล้วก็ยังไม่ค่อยถูกใจ แต่ก็มีกองทุนที่เราคุยๆอยู่ที่สนใจเข้ามาถือ"นายสมเชาว์ กล่าว

อนึ่ง ราคาหุ้น NCH พุ่งขึ้นเมื่อวานนี้ราว 9% ก่อนจะอ่อนตัวลงเล็กน้อยในวันนี้มาปิดตลาดที่ 1.92 บาท ลดลง 0.01 บาท หรือ 0.52%

นายสมเชาว์ กล่าวว่า ยอดขายในช่วงครึ่งแรกปีนี้อยู่ที่ 1.1-1.2 พันล้านบาท จากเป้าหมายทั้งปีที่ 3.4 พันล้านบาท เนื่องจากยังไม่มีการเปิดโครงการใหม่ แต่ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้จะเปิดโครงการใหม่ที่เป็นโครงการแนวราบทั้งหมดในกรุงเทพฯและปริมณฑลจำนวน 2-4 โครงการ มูลค่ารวม 3 พันล้านบาท ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้ยอดขายทั้งปีนี้ยังคงทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

ขณะที่ยังคงเป้าหมายรายได้ในปีนี้ที่ 2.2 พันล้านบาท จาก 1.8 พันล้านบาทในปีก่อน โดยรายได้ในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะออกมาดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากการเปิดโครงการแนวราบใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังจะสามารถทยอยโอนได้เลย ประกอบกับบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ในปัจจุบันอยู่ที่ 1.5 พันล้านบาท จะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ราว 60% และส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้รายได้ในปีหน้า

ทั้งนี้ Backlog ที่จะเริ่มทยอยโอนในไตรมาส 3/58 คือ โครงการคอนโดมิเนียมเนทูเรซ่า พัทยาเหนือ-นาเกลือ ในเฟสแรก 2 อาคาร มูลค่า 600 ล้านบาท จำนวน 200 ยูนิต ซึ่งจะทยอยโอนได้ในไตรมาส 3/58 ราว 300-400 ล้านบาท "ครึ่งปีหลังเราคาดว่ารายได้เรามากกว่าครึ่งปีแรก ซึ่งมันก็ต้องแบบนั้น เพราะโครงการแนวราบที่เราเปิดใหม่จะส่งมอบได้เลย และมีคอนโดเนทูเรซ่าที่พัทยาโอนอีก 300-400 ล้านบาท ส่วนครึ่งปีแรกรายได้ของเราก็จะออกมาดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนและเป็นไปตามเป้าแน่นอน เพราะปีที่แล้วมีความไม่สงบการเมือง"นายสมเชาว์ กล่าว นายสมเชาว์ กล่าวอีกว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้จะทรงตัวจากปีก่อน เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจไทยยังคงชะลอตัวอยู่ และในครึ่งปีที่ผ่านมามีปัจจัยลบค่อนข้างมาก ทำให้ภาวะตลาดค่อนข้างซบเซา หลังความเชื่อมั่นและกำลังซื่อยังไม่ฟื้นตัวกลับมา ขณะที่การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงถึง 2 ครั้งก็ยังไม่ได้ส่งผลโดยตรงต่อการฟื้นตัวขึ้นของการจับจ่ายใช้สอยของคนในประเทศ นอกจากนี้ปัจจุบันประเทศยังประสบปัญหาภัยแล้ง ซึ่งเป็นปัจจัยที่น่ากังวล เพราะจะทำให้รายได้ของเกษตรกรได้รับผลกระทบหนักมากขึ้น นอกเหนือจากราคาสินค้าเกษตรที่ยังตกต่ำอยู่ ทำให้การจับจ่ายใช้สอยอาจจะไม่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ไม่มีเงินไหลเข้ามาในระบบ

อีกทั้งการอนุมัติสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ที่เข้มงวดมากขึ้นก็ส่งผลต่อผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ทำให้การส่งมอบโครงการไม่เป็นไปตามเป้าหมาย โดยปัจจุบันบริษัทมีอัตราการปฏิเสธสินเชื่อสูงขึ้นจากสิ้นปีก่อนมาอยู่ที่ 30%


แท็ก (NCH)  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ