(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับตัวลงตามตลาดภูมิภาคหลังประชามติกรีซโหวต No

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday July 6, 2015 09:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะปรับตัวลงกันเฉลี่ยราว 1% ยกเว้นตลาดจีนเนื่องมาจากปัจจัยภายในของจีนเอง ทั้งนี้เป็นผลจากผลประชามติของกรีซออกมาโหวต No ต่อมาตรการรัดเข็มขัดของเจ้าหนี้ ทำให้มีผลต่อสถานภาพของกรีซ อย่างไรก็ดีให้ติดตามท่าทีของเจ้าหนี้อีกที อย่างเยอรมนี และฝรั่งเศส ซึ่งก็คาดว่าน่าจะมีการเข้าสู่การเจรจากันอีกครั้ง แต่ความไม่แน่นอนของกรีซก็ได้กลับมาอีกครั้ง

นอกจากนี้ เงินบาทก็อ่อนค่าลงไปอีกมีโอกาสแตะ 34 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้อาจจะมีแรงขายของนักลงทุนต่างชาติต่อได้ พร้อมให้แนวรับ 1,470-1,476 จุด ส่วนแนวต้าน 1,485 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการในวันที่ 3 ก.ค.58 เนื่องในวันชาติสหรัฐฯ
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 339.64 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 288.29 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 48.37 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 28.35 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 22.80 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 5.81 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(3 ก.ค.58) 1,489.59 จุด ลดลง 2.03 จุด (-0.14%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,468.49 ล้านบาท เมื่อวันที่ 3 ก.ค.58
  • ตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการในวันที่ 3 ก.ค.58 เนื่องในวันชาติสหรัฐฯ
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(3 ก.ค.58)ที่ 5.53 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 33.80/82 อ่อนค่าตามยูโรหลังกรีซโหวต"NO" มีลุ้นแตะ 34
  • "พาณิชย์"เปิดแผนยุทธศาสตร์ส่งออก มั่นใจกระตุ้นตลาดครึ่งปีหลังฟื้นทัน ดึงคำสั่งซื้อประจำปี ช่วงไตรมาส 3 ดันเป้าส่งออกขยายตัว 1.2% แจง 3 ส่วนยุทธศาสตร์ ให้ผู้บริหารระดับสูงเดินหน้าเปิดตลาดใหม่ เน้น จีน-สหรัฐ จี้คณะกรรมการส่งออกแห่งชาติสางปมอุปสรรคการค้า พร้อมทบทวนระเบียบหนุนการค้าคล่องตัว ภาวะส่งออกของไทยที่ลดลงอย่างหนัก ถึง 4.20% ในช่วง 5 เดือนแรก (ม.ค.-พ.ค.) ส่งผลให้ กระทรวงพาณิชย์ในฐานะผู้รับผิดชอบหลัก ต้องพยายามออกมากระตุ้นการส่งออกในช่วงครึ่งปีหลังอย่างเต็มที่ เพื่อให้พลิกฟื้นกลับมาในช่วงปลายปี
  • "เศรษฐกิจโลกชะลอ-ค่าเงิน-ไอยูยู การค้ามนุษย์" กระหน่ำใส่ส่งออกกลุ่มอาหารของไทยลดลงทั้งปริมาณและมูลค่า ขณะที่การส่งออกไก่ช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาเข้าตลาดญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น เหตุสินค้าจีนมีปัญหาคุณภาพ รับบราซิลคู่แข่งสำคัญ
  • นายกสมาคม"ค้าทองคำ" ประเมินปัญหาหนี้สินกรีซกระทบตลาดทองคำระยะสั้น ชี้เป็นการเล่นตามกระแสข่าวปกติ แนะนักลงทุนทยอยเข้าสะสม ด้านศูนย์วิจัยทองคำเชื่อ หากประชามติผ่านพ้นไปด้วยดี ช่วยให้ปัญหาหนี้กรีซจบ มองขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐ มีผลกระทบมากกว่า
  • เรกูเลเตอร์เล็งเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตขนาดเล็กมากสำหรับพลังงานหมุนเวียนไม่รวมโครงการแสงอาทิตย์ 19-30 ต.ค.นี้และคาดหวังประกาศรายชื่อได้ภายในธ.ค. กำหนดจ่ายไฟเข้าระบบภายใน 31 ธ.ค.60 ด้วยวิธีคัดเลือกด้านราคาหรือ Competitive Bidding ขณะที่เอกชนกังวลเน้นแข่งราคาต่ำสุดอาจนำไปสู่การเร่ขายโควตาซ้ำรอยแสงอาทิตย์

*หุ้นเด่นวันนี้

  • BBL(ฟินันเซีย ไซรัส)คุณภาพหนี้น่ากังวลน้อยกว่าธนาคารใหญ่อื่น ๆ เพราะลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ในภาคธุรกิจขนาดใหญ่ซึ่งแข็งแรงกว่า SME ทำให้การตั้งสำรองฯของ BBL จะไม่สูงนัก แต่กำไรสุทธิ 2Q15 และต่อเนื่องไปใน 2H15 จะถูกกดดันจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่หดตัวลงแรงจากต้นทุนเงินฝากที่เพิ่มขึ้น และทำให้เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปีนี้ลง 7% เหลือ 3.4 หมื่นล้านบาท หดตัว 6.5% Y-Y (ใกล้เคียงธนาคารใหญ่อื่นๆที่ลดลง 3-5%) และปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 183 บาทจาก 225 บาท ลดคำแนะนำเป็น"ถือ"จากเดิม"ซื้อ"
  • CPF(ฟินันเซีย ไซรัส)คาดกำไรปกติ 2Q15 ฟื้นตัวเป็น 887 ล้านบาทจาก 1Q15 ที่มีกำไร 72 ล้านบาท จากธุรกิจสัตว์บกในประเทศและรวมผลประกอบการของ CP Cambodia เข้ามา 100% แต่ทำให้กำไรปกติใน 1H15 ลดลงถึง 76% Y-Y แนวโน้มใน 2H15 ยังไม่สดใสจากกำลังซื้อในประเทศที่ชะลอ ราคาเนื้อสัตว์ทรงตัวในระดับต่ำ และธุรกิจส่งออกยังไม่ดีนัก เราจึงปรับกำไรปกติปีนี้ลง 31% เป็นหดตัวถึง 41% Y-Y แต่กำไรสุทธิยังคงไว้ที่ 1.1 หมื่นล้านบาทจากกำไรขายเงินลงทุนและขายที่ดิน ปรับราคาเป้าหมายลงเหลือ 26 บาทจาก 31 บาท ลดคำแนะนำเป็น"ถือ"จากเดิม"ซื้อ" ทั้งนี้ ประมาณการอาจมี upside จาก M&A ซึ่งคาดว่าจะประกาศใน 3Q15
  • INTUCH(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"สะสม"เป้า 114 บาท คาดหุ้นหลักในกลุ่มสื่อสารจะ Outperform ตลาด จากการเกิด Sector Rotation ของกองทุนในประเทศ ที่เคลื่อนย้ายเงินออกจากกลุ่มธนาคารเนื่องจากกังวลว่าผลประกอบการ 2Q58 ของกลุ่มธนาคารจะออกมาแย่ และพักเงินในหุ้นกลุ่ม Defensive แทน และให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลในเกณฑ์ดี โดยคาดการณ์เงินปันผล 1H58 ที่ 2.20 – 2.30 บาท คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 3% พร้อมคาดกำไรสุทธิ 2Q58 เติบโต yoy จากแรงหนุนของ ADVANC และ THCOM ที่คาดว่ากำไรสุทธิ 2Q58 จะเติบโต yoy และยังมีทิศทางขยายตัวต่อเนื่องใน 2H58

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ