(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งแคบหลังผลประชุมเฟดยังไม่ชี้ชัดการปรับขึ้นดบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday July 31, 2015 09:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งแคบ เนื่องจากผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ออกมายังไม่ชี้ชัดถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้เมื่อไรในปีนี้ แต่ก็ยังคงทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

นอกจากนี้ เงินบาทก็อ่อนค่าอยู่ แต่ตลาดฯก็ยังมีลุ้นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 6 ด้านที่กระทรวงการคลังประกาศออกมา แม้ว่ามาตรการที่ออกมาจะไม่ใช่ของใหม่ แต่เป็นการเร่งรัดการใช้จ่าย ซึ่งก็ต้องรอดูผลในทางปฏิบัติด้วยว่าจะเป็นไปได้แค่ไหน

ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้แกว่งทั้งในแดนบวก-ลบ พร้อมให้แนวรับ 1,400-1,410 จุด ส่วนแนวต้าน 1,420-1,422 ถัดไป 1,430-1,435 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(30 ก.ค.58) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,745.98 จุด ลดลง 5.41 จุด(-0.03%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,128.78 จุด เพิ่มขึ้น 17.05 จุด(+0.33%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,108.63 จุด เพิ่มขึ้น 0.06 จุด(+0.00%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 16.28 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 50.10 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 152.95 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 19.43 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 7.95 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 34.88 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.39 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(29 ก.ค.58) อยู่ที่ 1,417.49 จุด เพิ่มขึ้น 9.42 จุด (+0.67%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,321.04 ล้านบาท เมื่อวันที่ 29 ก.ค.58
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(30 ก.ค.58) ปิดที่ 48.52 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 27 เซนต์
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(30 ก.ค.58)ที่ 4.93 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเช้านี้เปิดอ่อนค่ามาที่ 35.15 จากดอลล์แข็งหลังเฟดเปิดทางขึ้นดอกเบี้ย
  • เฟดยังไม่ส่งสัญญาณแผนขึ้นดอกเบี้ยระบุเศรษฐกิจ-ตลาดงานสหรัฐดีขึ้นต่อเนื่อง ด้านนักวิเคราะห์ชี้ใกล้เวลาปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกตั้งแต่เกิดวิกฤติ คาดเริ่มปรับเดือนก.ย. ขณะนักเศรษฐศาสตร์เตือนรับมือค่าเงินผันผวน โบรกเกอร์คาดเงินไหลออกตลาดหุ้นไม่มาก มองพื้นฐานยังแข็งแกร่ง
  • "พาณิชย์" ขอความร่วมมือผู้ประกอบการตรึงราคาสินค้า 205 รายการไปจนถึงสิ้นเดือน พ.ย. เพื่อช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพให้ประชาชน เผยแนวโน้มสินค้าอาจทรงตัวยาว เหตุแรงกดดันด้านต้นทุนไม่มี ชี้สินค้าบางรายการที่แพงขึ้น เหตุเป็นไปตามฤดูกาล ระบุมะนาวตอนนี้ราคาเหลือแค่ลูกละ 80 สตางค์เท่านั้น รวมถึงหมู ไก่ ไข่ ที่ราคาลดลงต่อเนื่อง
  • ดัชนีสินค้าโภคภัณฑ์ของ บลูมเบิร์ก ในเดือน ก.ค.นี้มีแนวโน้มที่จะปรับตัวลดลงในอัตรา รายเดือนมากที่สุด นับตั้งแต่ปี 2011 ท่ามกลางราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ลดลงต่อเนื่อง โดยราคาน้ำมันเข้าสู่ภาวะตลาดหมี และราคาทองคำที่ปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำที่สุดในรอบ 5 ปี
  • "คลัง" ยอมรับ ไม่มี "บริษัทข้ามชาติ-บริษัทการค้าระหว่างประเทศ" รายใหม่ ขอใช้สิทธิตั้งสำนักงานใหญ่ในไทย ระบุมีเฉพาะสำนักงานปฏิบัติการภูมิภาค ขอโอนสิทธิยกระดับขึ้นเป็นเฮดควอเตอร์แทน เนื่องจากได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้น คาดใช้เวลา 1 ปี ประเมินผลการออกมาตรการภาษี หนุนการตั้งเฮดควอเตอร์
  • ตลาดหลักทรัพย์ รับแผนนำบริษัทนอก จดทะเบียนล่าช้า เหตุต้องตรวจสอบระบบดูแลความเสี่ยง พร้อมเดินสายโรดโชว์และชักชวนเข้าระดมทุน คาดดึงได้ 10 บริษัทเร็วๆนี้ ขณะที่เอกชนไทยเมินนำสินทรัพย์ต่างประเทศเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นรูปแบบกองรีท เหตุต้องเสียภาษี 2 ต่อ ระบุ "ก.ล.ต."ขาดผู้เชี่ยวชาญส่งผลให้หลายบริษัทถอดแผน
  • รัฐอัดงบลงทุนเมกะโปรเจ็กต์ปี'59 กว่า 1.33 แสนล้านบาท ชี้ใช้จัดการน้ำถึง 7 หมื่นล้าน เปิดทางหน่วยงานจัดซื้อจัดจ้างได้ตั้งแต่ ส.ค.นี้ ตั้งเป้าเบิกจ่ายงบลงทุนรวมไตรมาสแรก 8 หมื่นล้าน จากทั้งปี 5.4 แสนล้านบาท หวังกระตุ้น ศก.ปลายปี

*หุ้นเด่นวันนี้

  • ADVANC(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ทยอยสะสม"เป้า 290 บาท จะรายงานผลประกอบการ 2Q58 ในวันที่ 3 ส.ค. และเชื่อว่าจะเป็นปัจจัยบวกต่อราคาหุ้น เนื่องจากคาดว่ากำไรสุทธิ 2Q58 จะเติบโต +12.1% yoy เป็น 9.5 พันล้านบาท และให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลในเกณฑ์ดี โดยคาดการณ์เงินปันผล 1H58 หุ้นละ 6.50 บาท คิดเป็น Dividend Yield 2.6% และทั้งปี 2558 หุ้นละ 13.16 บาท คิดเป็น Dividend Yield 5.3% และคงมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มสื่อสาร เนื่องจากการประมูล 4G ทั้งคลื่น 1800 MHz และ 900 MHz ใน 4Q58 จะเป็นตัวปลดล็อกสัญญาสัมปทานเดิม และส่งผลบวกทั้งรายได้การให้บริการ Data ที่จะเร่งตัวขึ้นภายใต้ระบบ 4G และต้นทุนค่าธรรมเนียมลดลงจากเดิม พร้อมจัดให้เป็น Top pick ของหุ้นกลุ่มสื่อสาร
  • PTT(โกลเบล็ก)เป้า 400 บาท คาดกำไรสุทธิ 2Q58 ที่ 25,382 ล้านบาท เติบโต 12%QoQ แต่ลดลง16%YoY แม้ว่ารับรู้กำไรจาก PTTEP ลดลงแต่ได้ชดเชยกำไรจากการขาย BCP ราว 2.5 พันลบ. และกำไรจากบริษัทร่วมอื่น ๆ อีกทั้งได้รับประโยชน์จากการปรับโครงสร้างพลังงานในระยะยาว โดยการปรับขึ้นราคา NGV และ LPG ช่วยลดการขาดทุนได้ราว 9 พันลบ./ปี
อีกทั้งค่า P/E 17.6 P/BV 1.3 เท่า ถูกกว่า SET
  • SVI (เคเคเทรด)เป้า 5.70 บาท ได้รับอานิสงส์จากเงินบาทอ่อนค่า(ทุก 1 บาทมีผลต่อ Gross profit margin ราว 2%) และคาดการบันทึกเงินประกันจากอัคคีภัย หนุนกำไรสุทธิ 2Q58 โตแรง 228% QoQ, 380% YoY
  • SCC(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 580 บาท กำไรดีกว่าคาดถึง 20-25% จากธุรกิจปิโตรเคมีที่ดีกว่าคาด และกำไรจากการปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือมากกว่าคาด หักล้างกำไรของธุรกิจปูนซีเมนต์และกระดาษที่แย่ลงได้หมด โดยกำไรสุทธิ 2Q15 เพิ่มถึง 25% Q-Q และ 63% Y-Y แนวโน้มข้างหน้ายังสดใส วัฏจักรของธุรกิจปิโตรเคมีจะอยู่ในทิศทางขาขึ้นไปอีก 4 ปีจาก Supply ใหม่ที่เพิ่มเข้ามาน้อย และราคาน้ำมันดิบทรงตัวในระดับต่ำ และขยายกำลังการผลิตปูนซีเมนต์ในประเทศเพื่อนบ้าน รับการขยายตัวของโครงสร้างพื้นฐาน พร้อมปรับกำไรปีนี้ขึ้น 5% เป็นโต 33% Y-Y โดย SCC ประกาศจ่ายปันผล 7.50 บาท/หุ้น (Yield 1.5%) XD 10 ส.ค.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ