BIG เล็งปรับเป้ารายได้ปีนี้โตมากกว่า 10% รับไฮซีซั่นครึ่งหลัง กำไรโตกระโดด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday September 1, 2015 16:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธนสิทธิ์ เธียรกาญจนวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.บิ๊ก คาเมร่า คอร์ปอเรชั่น(BIG)กล่าวว่า บริษัทเตรียมปรับเป้ารายได้รวมปีนี้เป็นเติบโตมากกว่าเดิมที่คาดไว้ 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 3,450 ล้านบาท เนื่องจากงวด 6 เดือนแรกของปีนี้มีรายได้จากขายสินค้ารวม 1,966 ล้านบาท เติบโตเกินกว่า 20% แล้ว และครึ่งหลังของปีที่ปกติเป็นไฮซีซั่นของธุรกิจค้าปลีกอุปกรณ์ถ่ายภาพ

นอกจากนั้น ล่าสุด บริษัทยังทุ่มงบการตลาดกว่า 10 ล้านบาท จัดงาน BIG CAMERA BIG PRO DAYS ครั้งที่ 9 ระหว่างวันที่ 1-6 ก.ย.58 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิร์ด ตั้งเป้ายอดขายจากงานนี้ราว 100 ล้านบาท และในช่วงไตรมาส 4/58 บริษัทจะมีจัดแคมเปญใหญ่อีก 2 งาน อีเวนท์หลักก็คือ งานโฟโต้แฟร์ และบิ๊กโบนัส ซื้อสินค้าได้คูปองชิงโชค โดยทั้งปีใช้งบการตลาดราว 40 ล้านบาท ดังนั้น จึงคาดว่ายอดขายครึ่งปีหลังน่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก

ขณะที่กำไรสุทธิครึ่งปีหลังก็คาดว่าเติบโตอย่างก้าวกระโดด หลังจากครึ่งปีแรกทำกำไรแล้ว 143 ล้านบาท สูงกว่าทั้งปี 57 ที่มีกำไร 137 ล้านบาท

"ครึ่งแรกที่โตมากกว่า 20% เพราะกระแสสินค้าเกี่ยวกับกล้องเปลี่ยนไป และการกระจายสินค้าเราดีขึ้น ซึ่งปัจจุบันคนหันมาใช้กล้องมิลเลอร์เลสมากขึ้น (สามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่านแอพพลิเคชั่น) ซึ่งตลาดกล้องอยู่ที่การปรับตัว การพยายามผลักดันสินค้ามิลเลอร์เลส ซึ่งเป็นสินค้าที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคทำได้ดี"นายธนสิทธิ์ กล่าว

ปัจจุบันตลาดกล้องในประเทศไทยมีมูลค่าราว 5,000 ล้านบาท มีสัดส่วนเป็นกล้องคอมแพ็ก 20% ถือว่านิ่งๆ ไม่เติบโต แต่ก็ไม่หดตัว และอีก 80% เป็นกล้องเปลี่ยนเลนส์ ซึ่งในส่วนนี้เป็นกล้องมิลเลอร์เลสราว 70% และกล้อง DSLR อีก 30% โดยรายได้ของบริษัทมาจากกล้องมิลเลอเลส 30% และ DSLR 30% ส่วนกล้องคอมแพ็กอยู่ที่ 20% อีก 20% เป็นรายได้อื่นๆ เช่น อุปกรณ์ถ่ายภาพ และงานเซอร์วิส

"ศูนย์กระจายสินค้ามิลเลอร์เลสเราดีมาก ซึ่งกล้องมิลเลอร์เลสสามารถยิงภาพผ่านแอพมือถือ ก็ยังเป็นที่นิยมสูงสุด ปีนี้ตลาดรวมของมิลเลอร์เลสโตขึ้น สัดส่วนสินค้าอยู่ที่ 70% ของ segment นี้ ซึ่งก็เป็นมาร์จิ้นหลักของเราด้วย มิลเลอร์เลสตั้งแต่สิ้นปี 57 แนวโน้มโตขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ผู้ผลิตกล้อง DSLR ก็ไม่ได้ปรับตัวมากแล้ว"นายธนสิทธิ์ กล่าว

สำหรับสินค้าใหม่ในปีนี้มีการทยอยออกมาเรื่อยๆ เนื่องจากสินค้ากล้องเป็นไปตามความนิยม ดังนั้น สินค้าโมเดลหนึ่งจะมีระยะเวลา 1 ปีถึง 1 ปีครึ่ง ซึ่งแนวโน้มตลาดกล้องปี 59 น่าจะดีขึ้นจากช่วง 2-3 ปีก่อนหน้าที่ตกมาตลอดราว 30-40% ต่อปี ต่อเนื่องถึงไตรมาส 1/58 ยังหดตัวในอัตรา 2 หลัก แต่มาเริ่มฟื้นตัวในไตรมาส 2/58 เนื่องจากกระแสการใช้กล้องเปลี่ยนไปแล้ว อาจจะยังมีผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจอยู่บ้าง แต่เชื่อว่ากล้องจะไม่ถูกกระทบโดยตรง เพราะสามารถใช้คู่กับสมาร์ทโฟนที่ยังได้รับความนิยมอยู่

"ปี 59 คาดหวังภาวะเศรษฐกิจมากกว่า เพราะการท่องเที่ยวรัฐบาลไม่โปรโมทเลย อยู่ในตลาดที่ถูกจำกัดกับภาวะเศรษฐกิจและการเมือง ส่วนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เนื่องจากผู้บริโภคที่มาซื้อสินค้าเราเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบช้า เช่น กลุ่มวัยรุ่น ซึ่งกำลังซื้อยังมีอยู่ แต่ถ้านโยบายรัฐบาลออกมาคนที่มีรายน้อย แล้วมีรายได้มากขึ้น segment ระดับล่างก็จะขายดีขึ้น"นายธนสิทธิ์ กล่าว

นายธนสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ในปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุนรวม 100 ล้านบาท แบ่งเป็นงบการตลาด 40 ล้านบาท และเปิดสาขาใหม่ 50 ล้านบาท โดยปีนี้ตั้งเป้าเปิดสาขาใหม่ 10 สาขา เปิดไปแล้ว 6-7 สาขา ใช้งบลงทุนสาขาละ 2-2.5 ล้านบาท ล่าสุด เปิดที่เซ็นทรัลเวสท์เกต ส่วนที่เหลือจะเปิดให้ครบตามแผนงานเพื่อให้สิ้นปีนี้มีสาขาเพิ่มเป็น 235 สาขา จากปัจจุบัน 230 สาขา เนื่องจากมีการปิดสาขาเดิมด้วยส่วนหนึ่ง

"เช่น ต่างจังหวัดที่เรามีสโตร์อยู่แล้ว แต่ถ้าห้างใหญ่อย่างเซ็นทรัลไปเปิดในจังหวัดนั้นๆ เราก็จะไปเปิดสาขาในห้างและปิดสโตร์ไป ซึ่งปีนี้เป็นช่วงปรับเปลี่ยนจากสาขาเดิมหรือไฮเปอร์ไปเป็นห้างใหญ่ด้วย ในอนาคตการขยายสาขาก็จะเปิดตามห้างใหญ่"นายชัยสิทธิ์ กล่าว

นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาขยายตลาดต่างประเทศ เช่น มาเลเซีย และเวียดนาม ซึ่งที่ผ่านมาก็มีกลุ่มผู้ลงทุนเข้ามาติดต่อ แต่ขณะนี้ยังมองตลาดไทยยังมีศักยภาพสูงสุด และใหญ่ที่สุดในอาเซียน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ