การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยทำระดับสูงสุดของวันที่ 1,384.18 จุด และทำระดับต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,361.77 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 356 หลักทรัพย์ ลดลง 692 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 189 หลักทรัพย์
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง(BLS) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดในยุโรปเทรดในช่วงบ่ายนี้ต่างปรับตัวลงกว่า 3% เช่นเดียวกับ S&P 500, ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ ที่ต่างปรับตัวลงแรง รวมถึงตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียต่างอยู่ในแดนลบกันทั่วหน้า
ทั้งนี้ น่าจะเป็นผลจากความกังวลเศรษฐกิจโลก ภายหลังจากที่"มอร์แกน สแตนเลย์"ได้ออกบทวิเคราะห์ Downgrade ตัวเลข GDP ของโลก ทั้งสหรัฐฯ, ยุโรป, ญี่ปุ่น รวมถึง Emerging Market ด้วย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อกำไรของบริษัทจดทะเบียน (บจ.)ที่อาจจะต้องถูก Downgrade ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังคาดการณ์ว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)น่าจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนธ.ค.
สำหรับปัจจัยในประเทศเรื่องที่คณะรัฐมนตรี(ครม.)อนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแล้วนั้น มองว่าตลาดฯได้ Re-act มาก่อนแล้วในช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งกว่าที่จะ impact ก็ต้องใช้ระยะเวลาราว 2-3 เดือนถึงจะเห็นผล ดังนั้นนักลงทุนก็คงจะเลือกที่จะขายก่อนแล้วค่อยมาดูอีกที ทั้งนี้ ตลาดฯในช่วงที่ผันผวนสูงอยู่แล้ว จึงทำให้นักลงทุนระมัดระวังการลงทุน
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(2 ก.ย.)นายชัยพร กล่าวว่า ตลาดฯมีโอกาสที่จะปรับตัวลงต่อ พร้อมให้แนวรับ 1,350 จุด ส่วนแนวต้าน 1,370 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,939.03 ล้านบาท ปิดที่ 264.00 บาท ลดลง 4.00 บาท
KTB มูลค่าการซื้อขาย 2,014.22 ล้านบาท ปิดที่ 17.70 บาท ลดลง 0.50 บาท
JAS มูลค่าการซื้อขาย 1,891.49 ล้านบาท ปิดที่ 5.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,430.39 ล้านบาท ปิดที่ 75.50 บาท ลดลง 4.00 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,313.92 ล้านบาท ปิดที่ 140.00 บาท ลดลง 2.00 บาท