การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดช่วงเช้า แต่ดัชนีฯอ่อนตัวลงในช่วงบ่ายจนปรับตัวลงกว่า 10 จุดในช่วงใกล้ปิดตลาดฯ โดยทำระดับสูงสุดของวันที่ 1,403.30 จุด และทำระดับต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,381.48 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 384 หลักทรัพย์ ลดลง 624 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 242 หลักทรัพย์
นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี โอเอสเค(ประเทศไทย)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้ายังอยู่ในทิศทาง Postitive ได้ แต่ในช่วงบ่ายดัชนีฯปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดในยุโรปที่เทรดในช่วงบ่ายนี้ได้ปรับตัวลง เช่นเดียวกับดาวโจนส์ฟิวเจอร์ที่ติดลบ ทำให้ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ยังไม่ปิดตลาดต่างก็ปรับตัวลงกันเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)โดยต่างขายทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยงออกมา และไปรอดูการประชุมเฟดในวันที่ 16-17 ก.ย.นี้
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยได้ปรับตัวลงจนอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 1,400 จุด ทำให้เกิดแรงขายทำกำไรออกมาก่อน โดยมีแรงขายที่ออกมาจากหุ้นในกลุ่มแบงก์ และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากกลุ่มแบงก์ราคาได้ขยับขึ้นไปตอบรับเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจพอสมควรแล้ว ส่วนกลุ่มอสังหาฯก็มีการเล่นเก็งกำไรในความคาดหวังว่าจะมีมาตรการกระตุ้นอสังหาฯออกมา แต่สุดท้ายมาถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีอะไรออกมา ทำให้นักลงทุนเลือกที่จะขายทำกำไรออกมาก่อน
แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า นายธนเดช กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งผันผวนในช่วงก่อนผลประชุมเฟดจะออกมาในสัปดาห์หน้า ซึ่งเรื่องเรื่องของสหรัฐฯเวลานี้ถือเป็นปัจจัยหลักของตลาดฯ นอกจากนี้ทิศทางค่าเงินก็มีนัยยะในแต่ละตลาดจึงควรติดตามอย่างใกล้ชิด
พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,360-1,400 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
JAS มูลค่าการซื้อขาย 5,221.23 ล้านบาท ปิดที่ 6.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 3,324.88 ล้านบาท ปิดที่ 10.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.45 บาท
CPF มูลค่าการซื้อขาย 1,762.29 ล้านบาท ปิดที่ 20.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,579.99 ล้านบาท ปิดที่ 251.00 บาท ลดลง 5.00 บาท
AJD มูลค่าการซื้อขาย 1,461.69 ล้านบาท ปิดที่ 1.76 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท